นิวส์ คอนเน็คท์ - "อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์" มุ่งมั่นสร้างสังคมแห่งความสุข ต่อยอดแนวคิด Urban Living Solutions สู่ Happy Community เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืนของคนเมือง ผ่านกลยุทธ์ S M A R T ตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่ยึดมั่นในความยั่งยืน ความอุ่นใจ ความปลอดภัย พร้อมสุขภาพที่ดี

นายจรัญ เกษร กรรมการผู้จัดการ Strategy Property Management บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาโครงการคอนโดมิเนียมของอนันดาฯ ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ด้วยทำเลใกล้รถไฟฟ้าและดีไซน์ที่ทันสมัย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชีวิตคนเมืองได้อย่างลงตัวที่สุด แต่ด้วยสภาวะการแข่งขันในวันนี้ไม่ใช่แค่เพียงพัฒนาที่อยู่อาศัยให้มีดีไซน์ที่สวยงามเท่านั้น หากต้องนำประสบการณ์การอยู่อาศัยมาพัฒนาสินค้าตั้งแต่กระบวนการออกแบบ เพื่อสร้างสังคมที่มีความสุขให้กับผู้อยู่อาศัยด้วย

ดังนั้นสิ่งที่บริษัทพยายามทำให้ทุกคนรับรู้และร่วมใจเพื่อนำไปสู่การเป็นสังคมน่าอยู่ที่เป็นรูปธรรมคือ การสร้างวัฒนธรรมกา ร่วมใจ ห่วงใย แบ่งปัน โดยทุกคนที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของอนันดาฯ ภายใต้แนวคิด Urban Living Solutions สู่การเป็น Ananda Happy Community และกระบวนการทำให้เกิดความสุขและคุณภาพชีวิตที่ดี คือการนำกลยุทธ์ SMART Strategic Operation มาตอบโจทย์การอยู่อาศัยให้กับคนในครอบครัวของอนันดาฯ

สำหรับ SMART Strategic Operation เป็นกลยุทธ์ที่จะผลักดันในแง่ของการดูแลคนในสังคมอนันดาฯ ให้มีความสุขด้วยหลักสำคัญ 5 อย่าง คือ 1. S : Safe and Security ด้านความปลอดภัย, 2. M : Maintenance & Preventive ความสะดวกสบายของการอยู่อาศัย เช่น ลิฟท์ ไฟฟ้า น้ำประปา ต้องพร้อมให้บริการ , 3. A : Affordable Budget เรื่องงบประมาณ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เหมาะสมคุ้มค่า,
4. R : Real Happy Living ความสุขในการอยู่อาศัย ข้อตกลงการอยู่อาศัยร่วมกัน การมีกิจกรรมร่วมกัน และ 5. T : Tribe Ananda สังคมของอนันดาฯ เป็นสังคมที่ให้ความสำคัญในการดูแลกัน

ซึ่งในเบื้องต้น อนันดาฯ มีหน่วยงาน Strategy Property Management เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ดูแลลูกค้าตั้งแต่โอนกรรมสิทธิ์เข้ามาอยู่อาศัย โดยกำหนดแนวทางให้บริษัท เดอะ เวิร์ค, เจแอลแอล, แอลพีพี กำหนดตั้งแต่แรก หลังจากนั้นก็ต้องแสดงฝีมือให้เจ้าของบ้านได้เห็น และเกิดความพึงพอใจกับเรา และยังคงยินดีให้บริการต่อไปตามสัญญาจนครบ

"ทีมของเราจะดูตั้งแต่เรื่อง 1.Design ดูว่าลูกค้าแต่ละกลุ่มต้องการดีไซน์แบบไหน 2.Safety เขาต้องการความปลอดภัยในเรื่องไหนบ้าง และ 3.Servic เขาต้องการให้เราดูแล บริการเขาอย่างไร ทั้งก่อนการเข้ามาอยู่ และเข้ามาอยู่แล้ว และเราก็มีตัววัด คือ Quality Audit ว่าเมื่อลูกค้าเข้ามาอยู่ มีอะไรบ้างที่ Break Down มีอุบัติเหตุอะไรมั้ย โดยมีจะมีการวัด การประเมินกันทุก 6 เดือนในทุกโครงการ แล้วถ้าหากมีจุดที่ต้องแก้ไขปรับปรุงตรงไหน เราก็นำมาปรับปรุง ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เพื่อให้ลูกบ้านของเราเข้ามาอยู่แล้วมีความสุข" นายจรัญ กล่าว

เมื่อพูดถึงดัชนีความสุขของลูกบ้านอนันดาฯ คุณจรัญบอกว่า จากการวัดผลเมื่อช่วงกลางปี 2562 ที่ผ่านมา ผลการวัดขยับขึ้นมา 2% กว่า จากฐาน 80% ขึ้นมาอยู่ที่ 81.7% เมื่อเทียบจากปลายปี 2561 โดยเรามีเป้าหมายว่า ปลายปีควรจะต้องเพิ่มอีก 2% หรือขึ้นมาอยู่ที่ 83-84% และเป้าหมายปี 2563 อยากให้อยู่ที่ 85% นิดๆ ซึ่งระดับนี้ก็ถือว่าสูงมากแล้ว

ส่วนกรณีที่มีความกังวลกันว่า เมื่อมีการเพิ่มการดูแลลูกบ้านมากขึ้นนั้น จะมีผลต่อค่าใช้จ่ายของลูกบ้านสูงขึ้นหรือไม่ นายจรัญกล่าวว่า อนันดาฯ เป็น Tech Company มีการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่ลูกบ้านไม่ควรจะจ่ายให้ลดลง เช่น การติดตั้งโซลาร์เซลบนหลังคา การจัดตั้ง Command Center ที่จะเป็นศูนย์กลางเรื่องระบบความปลอดภัย ซึ่งอยู่ระหว่างการทดลอง เป็นต้น ดังนั้น มั่นใจได้ว่า จะไม่เป็นการเพิ่มภาระให้แก่ลูกค้าแน่นอน