Phones





WHAUP มั่นใจผลงานQ4โตต่อ ธุรกิจ'น้ำ-ไฟฟ้า'ไปได้สวย

2021-11-24 12:25:31 331



นิวส์ คอนเน็คท์ - WHAUP มั่นใจผลงาน Q4/64 โตต่อ ตามธุรกิจสาธารณูปโภคน้ำ-ไฟฟ้าไปได้สวย พร้อมขยายธุรกิจทุกด้านต่อเนื่อง  

เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 ดร.นิพนธ์ บุญเดชานันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจภาพรวมธุรกิจไตรมาส 4/64 จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากการขยายตัวของการให้บริการด้านสาธารณูปโภคที่เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมของกลุ่มดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ในประเทศไทย ทั้ง 11 แห่ง และเวียดนาม 1 แห่ง  

โดยประกอบด้วย 2 ธุรกิจ ได้แก่ 1.ธุรกิจสาธารณูปโภค (น้ำ) ภาพรวมในไทยและเวียดนาม มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งจากกลุ่มลูกค้าเดิมที่มีการขยายกำลังการผลิต และลูกค้ารายใหม่จากกลุ่มโรงไฟฟ้าและปิโตรเคมี รวมถึงการกลับมาดำเนินงานตามปกติของกลุ่มลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมฯ และ 2.ธุรกิจไฟฟ้า คาดว่ามีการเติบโตต่อเนื่องจากกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP ทั้ง 8 แห่งที่ และกลุ่มโรงไฟฟ้า IPP ผลการดำเนินงานฟื้นตัวจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรปกติของโรงไฟฟ้า Gheco-One หลังจากที่โรงไฟฟ้าดังกล่าวได้กลับมาดำเนินงานตามปกติในไตรมาส 4/2564 

นอกจากนี้ ยังมีการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการพัฒนาโซลูชันพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งล่าสุดได้มีการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับโครงการ Prinx Chengshan ขนาด 19 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีขนาดเมกะวัตต์สูงที่สุดที่บริษัทฯ เคยติดตั้งมา ส่งผลให้มียอดสัญญาซื้อขายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์รวม ณ สิ้นไตรมาส 3/2564 แล้วทั้งสิ้น 85 เมกะวัตต์ ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าทั้งปี ที่วางไว้ 90 เมกะวัตต์ จึงทำให้บริษัทฯ มั่นใจว่าภายในสิ้นปีนี้จะสามารถมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโครงการพลังงานแสงอาทิตย์สูงกว่าเป้าปี 2564 ที่วางไว้ 

และยังมีการพัฒนานวัตกรรมโซลูชันพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์อย่างต่อเนื่อง อาทิ การร่วมมือกับ บมจ.ปตท. และบริษัท เซอร์ทิส เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มพลังงานอัจฉริยะเพื่อซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในกลุ่มลูกค้าภายในนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ ได้แก่ ระบบการซื้อขายไฟฟ้าแบบ P2P Energy Trading โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain ซึ่งโครงการดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของโครงการทดลองด้านนวัตกรรมพลังงาน โดยคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (ERC Sandbox) 

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมีการทดสอบการนำระบบกักเก็บพลังงาน Battery Energy Storage System (BESS) มาใช้ควบคู่กับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเชื่อว่านวัตกรรมต่างๆ เหล่านี้ จะสร้างโอกาสในการขยายกำลังการผลิตในส่วนของ Renewable Energy และ Business Model ใหม่ให้กับบริษัทฯ ได้อย่างมีนัยสำคัญ เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านธุรกิจสาธารณูปโภคและธุรกิจพลังงานของภูมิภาค