นิวส์ คอนเน็คท์ - SCC คาด ปีนี้ยอดขายวัสดุก่อสร้างโตกว่า 3% พร้อมปูพรมขยายศูนย์ “CPAC Solution Center” สร้างเครือข่ายช่าง-ผู้รับเหมาท้องถิ่นจาก 20,000 คนในปี 63 หวังยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย

นายชนะ ภูมี Vice President – Cement and Construction Solution Business ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC เปิดเผยว่า ในปี 62 คาดว่ารายได้ของธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง (CPAC) หรือผลิตภัณฑ์โครงสร้างวัสดุก่อสร้างและคอนกรีตผสมสำเร็จรูปจะมีรายได้ราว 23,000 ล้านบาท หรือเติบโตตามตัวเลขจีดีพีของไทยที่คาดว่าจะเติบโตราว 3% ใกล้เคียงกับปีก่อน เนื่องจากงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐมีออกมาประมูลอย่างต่อเนื่อง แม้งานก่อสร้างของภาคเอกชนชะลอตัวก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ในปี 63 คาดว่า ธุรกิจ CPAC จะเติบโตอย่างต่อเนื่องตามขยายการลงทุนของภาครัฐและเอกชน โดยธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างเอสซีจี เป็นผู้ผลิตซีเมนต์และคอนกรีตนั้นได้มีการปรับตัวเพื่อเสริมขีดความสามารถทางการแข่งขันให้รับกับความเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ล่าสุดได้มีการยกระดับกระบวนการทำงานของกลุ่มธุรกิจซีเมนต์และโซลูชั่นการก่อสร้าง (Cement and Construction Solution Business) โดยอาศัยเครือข่ายความร่วมมือที่เข้มแข็งทั้งในระดับท้องถิ่นถึงระดับประเทศ เพื่อยกระดับวงการก่อสร้างไทยให้เป็นสังคมรุ่งเรือง (Wealth Community) ที่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายตลอดห่วงโซ่คุณค่าได้รับประโยชน์และเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน

รวมทั้งเกิดสังคมสีเขียว (Green Society) ที่มีการบริหารจัดการทรัพยากรในการก่อสร้างทั้งวัตถุดิบ คน งบประมาณ และเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดผลประโยชน์ที่จับต้องได้ในเชิงคุณค่าทางเศรษฐกิจ ผ่านกลยุทธ์ 3 ด้าน คือ การใช้ Construction Solution Technology ตอบโจทย์ความต้องการและการแก้ปัญหาให้ลูกค้า การนำเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น BIM (Building Information Modeling) มาช่วยตอบโจทย์การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าสูงสุดโดยสามารถช่วยลดวัสดุเหลือทิ้งที่เกิดจากการก่อสร้างได้ถึง 20% พร้อมทั้งได้การตั้งศูนย์รวมความเชี่ยวชาญ CPAC Solution Center สำหรับเป็นศูนย์ฝึกอบรมช่างรับเหมารวมถึงรองรับเจ้าของงานก่อสร้างให้สามารถมาใช้บริการค้นหางานออกแบบก่อสร้างรวมถึงติดต่อประสานงานผู้รับเหมา

ทั้งนี้ การจัดตั้งศูนย์ความเชี่ยวชาญ CPAC Solution Center ในปี 62 ตั้งเปิด 9 สาขาที่ เชียงใหม่ ขอนแก่น พิษณุโลก ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี  อุบลราชธานี พัทยา นนทบุรี และนครปฐม ก่อนขยายเป็น 20 สาขาทั่วประเทศ ในปี 63 คาดว่าใช้เงินลงทุนราว 10-20 ล้านต่อสาขา โดยหวังขยายเครือข่ายช่างและผู้รับเหมาท้องถิ่นจาก 2,000 คนในสิ้นปีนี้ แบะขยายเป็น 20,000 คน ในปี 63 เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยให้เทียบเท่าสากล