นิวส์ คอนเน็คท์ – RATCHเผยไม่หวั่นกระแสต่อต้านสร้างโรงไฟฟ้า 1,400 เมกะวัตต์ ชี้ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรร่วมลงทุน ซื้อก๊าซปตท. ขณะโรงไฟฟ้าเซเปียน เซน้ำน้อย พร้อมจ่ายไฟฟ้า ธ.ค.62

นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH กล่าวว่า ไม่หวั่นที่หลายฝ่ายมีข้อกังขาเรื่องที่ได้เป็นผู้รับสิทธิ์ในการดำเนินการลงทุนพัฒนาโรงไฟฟ้าเพื่อความมั่นคงในภาคตะวันตก ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561-2580 (PDP2018) จำนวน 2 โครงการโรงละ 700 เมกะวัตต์รวมกำลังการผลิต 1,400 เมกะวัตต์นั้นบริษัทไม่มีความกังวนแต่อย่างใด เนื่องจากโครงการนี้ได้ดำเนินการขั้นเลือกตามขั้นตอนที่ถูกต้องผ่านการอนุมัติของคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ให้เป็นผู้รับผิดชอบเงินลงทุนการปรับปรุงท่อส่งก๊าซธรรมชาติและสายส่งไฟฟ้าเพื่อรองรับโครงการ และ กฟผ.ได้ลงนามซื้อขายไฟฟ้า (PPA ) ไปแล้ว เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2562

ส่วนราคาค่าไฟฟ้าก็เป็นราคาที่เหมาะสมโดยราคาเฉลี่ยตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 25 ปีอยู่ที่ 1.9930 บาทต่อหน่วย โดยเป็นราคาที่ต่ำว่าราคารับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) ทั้งหมดที่ระดับ 0.0038 บาทต่อหน่วย

ทั้งนี้การดำเนินการลงทุนของโรงไฟฟ้าดังกล่าวนั้นเป็นการดำเนินการภายใต้บริษัท หินกองเพาเวอร์ จำกัด เป็นบริษัทย่อยของ RATCH ถือหุ้น 100% ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรร่วมลงทุน โดยมีการเจรจาอยู่หลายบริษัทซึ่งก็ไม่เร่งรีบว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้ อย่างไรก็ตามการเปิดโอกาสให้พันธมิตรร่วมลงทุนนั้นเพื่อสร้างความเข็งแข็งในการลงทุน ส่วนการเจรจาซื้อก๊าซธรรมชาติจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT อยู่ระหว่างการเจรจา โดยโรงไฟฟ้าทั้ง 2 โรงนั้นคาดว่ามีความต้องการใช้ก๊าซประมาณ 220-240 ลูกบาศก์ฟุตต่อวัน

สำหรับการดำเนินการก่อสร้างโรงแรกตามแผนต้องดำเนินการก่อสร้างในปี 64 ส่วนโรงที่ 2 ดำเนินการก่อสร้างในปี 65 ตามลำดับเพื่อให้ทันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (COD) ในปี 67-68 ตามแผน พีดีพี คาดว่าใช้เงินลงทุนราว 500,000 เหรียญสหรัฐต่อเมกะวัตต์

ขณะที่ความคืบหน้าโครงการโรงไฟฟ้า เซเปียน เซน้ำน้อย ขนาดกำลังการผลิต 410 เมกะวัตต์ ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการซ่อมแซมสันเขื่อนที่แตกเมื่อกลางปี 61 คาดว่าจะสามารถดำเนินการ COD ได้ในเดือน ธ.ค. 62 อย่างแน่นอนจากกำหนดเดิมจะต้อง COD ในเดือน ก.พ. 62