Phones





SSP จับมือพันธมิตรจ่อผุดวินด์ฟาร์มเวียดนาม 48 MW

2019-09-25 18:04:28 229




 นิวส์ คอนเน็คท์ - SSP ลงนามในสัญญากับกลุ่มบริษัท TTVN เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ขนาดกำลังผลิต 48 เมกะวัตต์ ในเวียดนาม โดยจะจัดตั้งบริษัทร่วมทุน ซึ่งมีทุนจดทะเบียน 400 พันล้านเวียดนามดอง และกลุ่มบริษัทจะถือหุ้น 80% และกลุ่ม TTVN ถือหุ้น 20%


นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SSP เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2562 บริษัทได้ลงนามในสัญญาร่วมพัฒนา (Joint Development Agreement) กับกลุ่มบริษัท Truong Thanh Vietnam Group Joint Stock Company (“TTVN”) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังลม ขนาดกำลังผลิต 48 เมกะวัตต์ ในประเทศเวียดนาม ซึ่งโครงการดังกล่าวจะดำเนินการโดยบริษัทร่วมทุนที่จัดตั้งในประเทศเวียดนาม โดยกลุ่มบริษัทมีสัดส่วนการถือหุ้น 80% และกลุ่ม TTVN มีสัดส่วนการถือหุ้น 20%


ทั้งนี้ บริษัทร่วมทุนดังกล่าว จะมีทุนจดทะเบียน 400 พันล้านเวียดนามดอง (เทียบเท่า 528.4 ล้านบาท อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยน ณ 20 กันยายน 2562 ในอัตรา 0.1321 บาทไทยต่อ 100 เวียดนามดอง) ขณะที่ เรียกชำระทุนเบื้องต้น 14.5 พันล้านเวียดนามดอง (เทียบเท่า 19.2 ล้านบาท) โดยการเรียกชำระทุนครั้งต่อไปจะเป็นไปตามข้อตกลงของทั้งสองฝ่ายตามความจำเป็นในอนาคต ทั้งนี้ TTVN ไม่ใช่บุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ


"เป้าหมายของ SSP คือการดำเนินธุรกิจพลังงานทดแทน หรือ Renewable energy ในทุกรูปแบบ ไม่ได้จำกัดไว้เฉพาะโซลาร์ฟาร์มเพียงอย่างเดียว ฉะนั้นนี่จึงเป็นก้าวสำคัญอีกครั้งของ SSP เป็นการเปิดอีกมิติแห่งการลงทุน โดยรุกสู่ธุรกิจพลังงานทดแทนแบบวินด์ฟาร์ม ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งรูปแบบ จากอีกหลายรูปแบบที่เรากำลังศึกษาถึงโอกาสและความเป็นไปได้ในการทำธุรกิจ สำหรับการร่วมทุนในครั้งนี้ ถือเป็นผลสำเร็จส่วนหนึ่งของการเข้าไปลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะมีโครงการอื่นๆ อีกต่อไปในอนาคต และส่งผลให้บริษัทฯมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง"


ในช่วงที่ผ่านมา SSP มีกำลังการผลิตติดตั้งจากโรงไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศรวม 140 เมกะวัตต์ หลังจาก COD โครงการ Binh Nguyen Solar ที่เวียดนาม และคาดว่าภายในสิ้นปี 2562 นี้กำลังการผลิตติดตั้งจะเพิ่มเป็น 157 เมกะวัตต์ โดยเพิ่มจากโครงการโซลาร์ฟาร์มที่มองโกเลีย มีขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 16.4 เมกะวัตต์ ซึ่งได้ COD ไปแล้วเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา


นายวรุตม์กล่าวต่อถึงแนวโน้มผลงานในครึ่งปีหลังนี้ ว่ามีสัญญาณที่ดีและเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากจะสามารถรับรู้รายได้จากโครงการโซลาร์ฟาร์มในมองโกเลียได้เพิ่มขึ้น และโครงการดังกล่าว จะเป็นปัจจัยที่สำคัญในการผลักดันให้ผลประกอบการทั้งปีเติบโตเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ โดยคาดว่ารายได้เติบโตประมาณ 30-40%และยังคงทุบสถิติสูงสุดได้ต่อเนื่อง


นอกจากนี้ บริษัทฯยังคงเดินหน้าในการขยายการลงทุนต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายช่วง 3-5 ปีข้างหน้า จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็น 400 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาหลายโครงการ ซึ่งในปี 2563 ตั้งเป้าหมายจะมีกำลังการผลิตที่ 196 เมกะวัตต์ จากสิ้นปี 2562 ที่มี 157 เมกะวัตต์