Phones





MTC ก้าวสู่ธุรกิจแสนล. ตอกย้ำเบอร์1ธุรกิจNon-Bank

2022-01-12 10:31:59 198



นิวส์ คอนเน็คท์ - MTC เปิดวิสัยทัศน์ก้าวสู่ธุรกิจ 100,000 ล้านบาท ในปี 65 ตอกย้ำผู้นำอันดับหนึ่งธุรกิจ Non-Bank ของเมืองไทย ชี้ 4 ปีข้างหน้า ยอดปล่อยกู้ทะลุ 200,000 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2565 นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC เปิดเผยว่า บริษัทได้มีการจัดประชุมคณะกรรมการบริหาร เรื่องการวางแผนธุรกิจในปี 2565 โดยเริ่มจากภาพรวมย้อนหลังเมื่อ 8 ปี ก่อนเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ฯ จากยอดสินเชื่อคงค้าง จำนวน 7,447 ล้านบาท ปัจจุบัน 90,000 ล้านบาท, กำไร 544 ล้านบาท ปัจจุบันยอด (ประมาณการ) 5,000 ล้านบาท , จำนวนสาขา 506 สาขา ปัจจุบัน 5,800 สาขา, จำนวนพนักงาน 1,690 คน ปัจจุบัน 11,400 คน หรือคิดเป็นยอดเติบโตเฉลี่ย 1,000% ภายใน 8 ปี หรือเท่ากับเติบโต 125% ต่อปี 

ปัจจุบัน​ บริษัทฯได้เป็นผู้นำอันดับหนึ่งในธุรกิจ Non-Bank โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาด 45% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริษัทฯใช้เวลา 8 ปีจนก้าวข้ามมาเป็นผู้นำอันอับ 1 อย่างชัดเจนในอุตสาหกรรมนี้  

 สำหรับความยั่งยืนขององค์กรดูได้จากผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรก นอกจาก “กลุ่มเพ็ชรอำไพ” แล้ว ผู้ถือหุ้นใหญ่จะเป็นกองทุนทั้งต่างประเทศและกองทุนภายในประเทศที่ให้ความสนใจมาถือหุ้นของบริษัทฯ เป็นจำนวนมาก โดยมีกองทุนต่างชาติมาถือหุ้นประมาณ 15%, กองทุนไทยถืออยู่ 10% ที่เหลือเป็นนักลงทุนรายย่อยประมาณ 8% แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของกองทุนทั้งไทยและต่างประเทศให้ความสนใจลงทุนในหุ้นของบริษัทเป็นจำนวนมาก ลงทุนเป็นระยะเวลานานและมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นตลอดทุกปี

 ทั้งนี้ แผนการดำเนินงานในอนาคต นอกจากธุรกิจหลักของ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ที่เน้นเรื่องสินเชื่อทะเบียนรถ, สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ ,สินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อที่ดิน แล้ว ในปี 2565 บริษัทฯ ได้เร่งทำการตลาดเพิ่มอีก 2 ธุรกิจ คือ บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด ที่ให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ ซึ่งมีแนวโน้มยอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยคาดหวังว่าในปี 2565 จะมียอดสินเชื่อประมาณ 6,000 ล้านบาท และบริษัท เมืองไทย เพย์ เลเทอร์ จำกัด ที่ให้บริการซื้อก่อน ผ่อนทีหลัง กับกลุ่มลูกค้าเดิม และหาลูกค้าใหม่มาเพิ่มเติม โดยการเสนอสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า, คอมพิวเตอร์, เครื่องใช้และของใช้ในบ้าน ตามนโยบาย ซื้อก่อน ผ่อนทีหลัง ซึ่งทั้ง 2 บริษัท ถือหุ้นโดยเมืองไทย แคปปิตอล เกือบ 100%
 
สำหรับแผนงานในปี 2565 บริษัทตั้งเป้าเติบโตสู่ธุรกิจ 100,000 ล้านบาท โดยมีธุรกิจหลักคือ เมืองไทย แคปปิตอล และธุรกิจที่ตั้งขึ้นใหม่คือ เมืองไทย ลิสซิ่ง และเมืองไทย เพย์ เลเทอร์ เป็นธุรกิจที่จะเข้ามาสนับสนุนการทำธุรกิจในอนาคต โดยมีการวางแผนการทำตลาดทั้งลูกค้าเดิมที่มีประวัติการชำระหนี้ดีและการเข้าหาลูกค้าใหม่ที่มีความต้องการใช้บริการผ่านการดำเนินงานของสาขาที่มีบริการมากกว่า 5,800 สาขา กระจายอยู่ทั่วประเทศ รวมถึงการเปิดสาขาใหม่กว่า 600 สาขาต่อปี
 
อีกทั้งบริษัทวางแผนการเติบโตในอีก 4 ปี ข้างหน้าคือปี 2569 เพื่อก้าวสู่ธุรกิจปล่อยสินเชื่อได้ถึง 200,000 ล้านบาท ซึ่งการจะก้าวสู่เป้าหมายดังกล่าวนี้ บริษัทฯจะต้องเน้นในเรื่องบริษัทต้องเติบโต 20-25% ต่อปี ตลอด 4 ปี รวมทั้งควบคุมหนี้เสียไม่เกิน 2% และลดดอกเบี้ยต่ำ รวมทั้งเงื่อนไขในการบริการไม่เอาเปรียบลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน โดยให้พนักงานรับผิดชอบการปล่อยสินเชื่อให้มากขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพของสาขา โดยการเปิดสาขา เน้นจุดที่มีชุมชน และมีลูกค้ามาใช้บริการจำนวนมากเพื่อสร้างความประทับใจให้ลูกค้าและลดข้อร้องเรียน