นิวส์ คอนเน็คท์ – THAI ชี้แผนจัดหาเครื่องบินต้องสอดคล้องภาวะการแข่งขันระยะ 3-5 ปีข้างหน้า หลังจากตลาดแข่งขันรุนแรง พร้อมลุยทบทวนแผน มั่นใจเสร็จตามกำหนดภายใน 6 เดือน เบื้องต้นเตรียมสำรองเช่าเครื่องเสริมทัพก่อน 3 ลำ

นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยถึงกรณีที่คณะกรรมการ (บอร์ด) มีมติให้ฝ่ายบริหารกลับไปทบทวนแผนจัดหาเครื่องบินใหม่เพื่อเสริมฝูงบินในอนาคตว่า แผนจัดหาเครื่องบินใหม่ต้องมีการทบทวนเพื่อให้สอดคล้องและครอบคลุมกับภาวะการแข่งขันในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า เนื่องจากภาวะการแข่งขันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามใน 5 ปีข้างหน้าการบินไทยต้องปีเครื่องบินตามแผนที่เพียงพอ

โดยการแข่งขันในช่วงที่ผ่านมาตลาดเปลี่ยนแปลงไปมากมาจาก 2-3 ปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นตลาดผันผวน มีการปรับตัวของสายการบินต้นทุนต่ำ และสายกาบินฟูลเซอร์วิสเพื่อรองรับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น อย่างไรก็ตาม การทบทวนแผนจัดหาเครื่องบินมั่นใจว่าจะนำกลับมาเสนอบอร์ดอีกครั้งภายใน 6 เดือน

“มติบอร์ดดังกล่าว ถือเป็นการให้โอกาสการบินไทยในการกลับมาทบทวนแผนจัดหาให้สอดคล้องกับภาวะการแข่งขันในปัจจุบันและในอนาคตเพราะต้องยอมรับว่า แผนการจัดหาในปัจจุบัน มีการศึกษามาแล้ว 12 เดือน ประกอบกับสถานการณ์ในตลาดการบินปัจจุบันมีการแข่งขันรุนแรง โดยเฉพาะสายการบินโลว์คอส์ตที่มียอดสั่งซื้อเครื่องบินรวมกว่า 500 ลำ มารองรับการแข่งขัน และต้องยอมรับว่าภายใต้ภาวะการแข่งขันที่รุนแรงก็มีสายการบินเกิดใหม่เยอะขึ้น ขณะที่สายการบินที่ปิดตัวไปก็เยอะเช่นกันทุกสายการบินก็ต้องปรับตัวเพื่อให้อยู่รอด”นายสุเมธ กล่าว

ทั้งนี้ แผนจัดหาฝูงบินที่ถูกชะลอออกไปอีก 6 เดือนนั้น ยืนยันว่าจะไม่กระทบกับภาพรวมการดำเนินงาน เนื่องจากขณะนี้ THAI มีแผนที่จะดำเนินการเช่าเครื่องบิน Boeing 777-300ER จำนวน 3 ลำ รองรับผู้โดยสาร 300 ที่นั่งเข้ามาเสริมการบริการ

อย่างไรก็ตาม แผนเช่าเครื่องบินนั้นบริษัทเตรียมเสนอบอร์ดการบินไทยพิจารณาอนุมัติในเดือน ต.ค.62 หากบอร์ดเห็นชอบก็จะสามารถเริ่มขั้นตอนจัดหาได้ทันที เนื่องจากการเช่าเครื่องบินในจำนวนดังกล่าว ไม่ต้องเสนอขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) จึงคาดว่ากระบวนการจัดหาจะใช้เวลาราว 4 เดือน ทยอยรับมอบในช่วงต้นปี 63 และมีระยะเวลาเช่าตามอายุสัญญาประมาณ 6 ปี

นอกจากภาวะการแข่งขันยังมีปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ คือ เงินบาทแข็งค่า ส่งผลให้รายได้ค่าโดยสารเฉลี่ยลดลงราว 5% ขณะเดียวกันยังได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลดตัว หลังจากได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐ-จีน