Phones





KTB ชี้ธุรกิจฝึกอบรมช่วยติดปีกศก.ไทย

2022-03-09 19:34:42 268



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS มองแรงกดดันจากปัญหาด้านทักษะแรงงานและสังคมสูงอายุ ทำให้ประเทศไทยจำเป็นต้องยกระดับศักยภาพแรงงานเร่งด่วน ชี้ธุรกิจฝึกอบรมเป็นตัวช่วยที่สำคัญ แต่ต้องปรับกลยุทธ์เพื่อตอบสนองความต้องการพัฒนาทักษะของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นขององค์กร
 
เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2565 ดร.พชรพจน์ นันทรามาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เปิดเผยว่า ช่องว่างด้านบุคลากรของไทย เป็นปัญหาทั้งด้านคุณภาพและปริมาณ โดยไทยยังขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะที่จำเป็นต่อโลกอนาคตหลายด้าน เช่น ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ด้าน Data Analytic ด้านการสื่อสารภาษาต่างประเทศ เป็นต้น อีกทั้งประชากรสูงวัยที่เพิ่มขึ้นของไทย ทำให้สัดส่วนกำลังแรงงานลดลง ยิ่งกดดันให้ต้องการ productivity จากแรงงานสูงขึ้น เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศให้หล่อเลี้ยงประชากรที่มีอายุเฉลี่ยเพิ่มขึ้น
 
ทั้งนี้ มองว่าธุรกิจฝึกอบรมพัฒนาทักษะบุคลากร หรือ Corporate training จะเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่ช่วยติดอาวุธทางปัญญาและแก้ปัญหานี้ได้ โดยปัจจุบันธุรกิจนี้มีผู้ประกอบการอยู่ประมาณ 5,100 ราย มูลค่าตลาดประมาณ 20,000 ล้านบาท แต่มีโอกาสที่จะเติบโตได้อีกมาก คาดว่าจะแตะระดับ 60,800 ล้านบาท ภายในปี 70 หรือเติบโตเฉลี่ยถึง 26.4% ต่อปี (CAGR 62-70)
 
“เมกะเทรนด์ที่สำคัญของโลกหลายด้าน จะสร้างโอกาสให้กับธุรกิจฝึกอบรมเพื่อตอบโจทย์การพัฒนาบุคลากรในโลกยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการเติบโตของเทคโนโลยีในกลุ่มดิจิทัลที่ถูกนำมาปรับใช้ในภาคธุรกิจมากขึ้น กระแส Green economy ที่จะนำมาสู่การจ้างงานในกลุ่ม green jobs เช่น ตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้พลังงานทดแทน ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 100 ล้านตำแหน่งทั่วโลกภายในปี 2050 อีกทั้งการให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจภายใต้แนวทาง Environment Social and Governance จะทำให้ภาคธุรกิจต้องพัฒนาคนให้มีความเข้าใจในหลักการ ESG ด้วย นอกจากนี้อายุขัยประชากรที่เพิ่มขึ้นและการเข้าสู่สังคมสูงวัย ยิ่งตอกย้ำให้เราต้องให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ตลอดชีวิตมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เราเริ่มเห็นองค์กรธุรกิจชั้นนำในประเทศไทย เพิ่มเม็ดเงินการลงทุนพัฒนาบุคลากรมากขึ้น ซึ่งได้นำไปสู่การยกระดับผลการดำเนินงานของภาคธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรมของธุรกิจ ทั้งด้านการลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และสร้างนวัตกรรมให้กับองค์กร” ดร.พชรพจน์ กล่าว
 
นายกิตติศักดิ์ กวีกิจมณี นักวิเคราะห์ ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS กล่าวว่า แม้จะมีโอกาสที่มากขึ้น แต่ ธุรกิจ Corporate training เองก็จำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ธุรกิจ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการพัฒนาทักษะที่แตกต่างกันของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น โดยคำนึงถึงพฤติกรรมการเรียนรู้ที่เปลี่ยนไปในยุค New Normal เร่งแสวงหาความร่วมมือจาก partner ภายนอก และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น ปัญญาประดิษฐ์, Virtual Reality หรือ Augmented Reality เพื่อสร้างนวัตกรรมที่ช่วยยกระดับผลลัพธ์การเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 
 
“เราเริ่มเห็นธุรกิจ Corporate training ใช้วิธีการที่หลากหลายและทันสมัยในการส่งมอบบริการฝึกอบรม เช่น การจัด Bootcamp สำหรับสร้างโปรแกรมเมอร์ การจำลองสถานการณ์หรือ simulation เพื่อฝึกฝนพนักงานขายให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่างๆได้ โดยผู้ให้บริการฝึกอบรมควรให้ความสำคัญกับความรู้และทักษะแห่งโลกอนาคตที่สอดคล้องกับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศที่รัฐบาลให้การสนับสนุน ไม่เพียงแต่เฉพาะความรู้เชิงเทคนิคที่เกี่ยวกับงาน แต่รวมถึง soft skill ที่จำเป็นต่อการทำงานแห่งโลกยุคใหม่ด้วย เช่น creativity and innovation, leadership, collaboration เป็นต้น ทั้งนี้ ความร่วมมือกับ partner กลุ่มต่างๆ เช่น ผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหาหรือด้านเทคโนโลยี จะยิ่งช่วยเพิ่มความสามารถให้กับ Corporate training ในการพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ผู้เรียนมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้บุคลากรในภาคธุรกิจมีความพร้อมรับมือกับงานแห่งโลกอนาคต ช่วยขับเคลื่อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะถัดไปให้เข้มแข็ง และยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืนหลังวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วย” นายกิตติศักดิ์