นิวส์ คอนเน็คท์ - STA เดินหน้าขยายกำลังการผลิตเชิงรุก ปรับเพิ่มงบลงทุนยางแท่งในปี 65–66 เป็นกว่า 6-7 พันล้านบาท ขยายกำลังผลิตอีก 1.1 ล้านตันต่อปี รองรับอุตสาหกรรมยางเข้าสู่วัฏจักรขาขึ้นรอบใหม่ วางเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดโลกเป็น 12% จากเดิมอยู่ที่ 10% และเพิ่มส่วนแบ่งตลาด ในไทยเป็น 35% จากเดิมอยู่ที่ 32%

เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2565 นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่และกรรมการบริหาร บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมยางธรรมชาติที่อยู่ในช่วงเริ่มฟื้นตัวของวัฏจักรขาขึ้นรอบใหม่ และซัพพลายในตลาดโลกที่คาดว่าจะไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปีนี้ รวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ที่อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง สู่รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นหนึ่งเมกะเทรนด์ของโลก มองว่าจะส่งผลดีต่อภาพรวมอุตสาหกรรมยางธรรมชาติที่มีความต้องการใช้ยางเพิ่มขึ้น

โดยมีข้อมูลว่ารถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle หรือ EV) จะต้องใช้ล้อรถและยางล้อที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าปกติ เนื่องจากมีน้ำหนักและแรงบิดมากกว่ารถยนต์ทั่วไป นอกจากนี้ภาพรวมราคาเฉลี่ยยางแท่ง TSR20 ในตลาดซื้อขายล่วงหน้าของประเทศสิงคโปร์ถือว่าอยู่ในระดับที่ดี คาดว่าราคาซื้อขายเฉลี่ยในปี 65 จะไม่ต่ำกว่า 170 เซนต์ต่อกิโลกรัม จากปีก่อนอยู่ที่กว่า 167 เซนต์ต่อกิโลกรัม จึงเป็นโอกาสของบริษัทที่จะเพิ่มส่วนแบ่งอุตสาหกรรมยางธรรมชาติในตลาดโลก

ดังนั้นในปี 65 บริษัทตั้งเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ยางธรรมชาติในตลาดโลกเป็น 12% จากสิ้นปี 64 ที่มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 10% รวมทั้งจะมีการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดยางธรรมชาติในประเทศไทยเป็น 35% จากสิ้นปี 64 ที่มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 32% 

นอกจากนี้ บริษัทได้เพิ่มงบลงทุนขยายกำลังการผลิตยางแท่งเป็นกว่า 6,600 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอีก 1.1 ล้านตันต่อปี จาก 14 โรงงานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ รวมถึงประเทศเมียนมา เนื่องจากในปี 64 มีอัตราการเดินเครื่องจักรผลิตยางแท่งในประเทศไทยเฉลี่ยทั้งปีสูงกว่า 80% โดยปี 65 จะมีโรงงานทยอยแล้วเสร็จ 7 แห่ง ได้แก่ โรงงานสกลนคร พิษณุโลก ตรัง กาฬสินธุ์ บุรีรัมย์ สระแก้วและบึงกาฬ ส่วนที่เหลือจะทยอยแล้วเสร็จในปี 66-67 

ทั้งนี้ แผนลงทุนขยายกำลังการผลิตดังกล่าว เพื่อรองรับเป้าหมายปริมาณการขายยางธรรมชาติทุกประเภทในปี 65 ที่ 1.6 ล้านตัน เพิ่มขึ้นกว่า 20% จากปีก่อนมีปริมาณการขายประมาณ 1.3 ล้านตัน สอดคล้องกับการวางแผนลงทุนขยายกำลังการผลิตเชิงรุกอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีข้างหน้า (65–67) เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตรวมยางทุกประเภทเป็น 4.16 ล้านตันต่อปี ภายในปี 67 หรือเพิ่มขึ้นกว่า 40% จากปี 64 มีกำลังการผลิตยางทุกประเภทรวม 2.81 ล้านตันต่อปี

“เรามองว่าในช่วง 3 ปีนับจากนี้เป็นโอกาสการลงทุนขยายกำลังการผลิต เนื่องจากดีมานด์ในอุตสาหกรรมยางทั่วโลกเพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มฟื้นตัวและมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว ขณะที่ภาพรวมซัพพลายในตลาดโลกไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากผู้ประกอบการบางประเทศที่เป็นผู้ส่งออกยางรายใหญ่ ประสบปัญหาเกี่ยวกับการขยายกำลังการผลิตในช่วงที่ผ่านมา จึงเป็นโอกาสของบริษัทฯ ที่จะเร่งขยายการลงทุนมากขึ้น” นายวีรสิทธิ์ กล่าว