Phones





TVD ผู้ถือหุ้นอนุมัติเพิ่มทุน เดินหน้าขยายธุรกิจ

2022-04-01 18:43:41 303



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - TVD ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติแผนเพิ่มทุนจำนวน 895,414,919 หุ้น พร้อมออกวอแรนต์ รุ่นที่ 3 ไม่เกิน 223,853,730 หน่วย รองรับแผนปรับโครงสร้างธุรกิจและเร่งขยายธุรกิจใหม่ วางเป้าหมายสร้างรายได้จากธุรกิจ Non TV Home Shopping เติบโตไม่ต่ำกว่า 50% 
 
เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2565 okpทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 65 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-AGM) เมื่อวันที่ 31 มี.ค.65 ได้มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจำนวน 559,634,324.50 บาท จากทุนจดทะเบียน 447,707,459.50 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 1,007,341,784 บาท โดยจะมีการการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 1,119,268,649 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (RO) ในอัตราส่วน 1 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญที่ออกใหม่ รวมทั้งสิ้น 895,414,919 หุ้น ราคาเสนอขายหุ้นละ 1.00 บาท  
 
นอกจากนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นยังมีมติอนุมัติให้ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท (วอร์แรนต์) รุ่นที่ 3 (TVD-W3) จำนวนไม่เกิน 223,853,730 หุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ที่จองซื้อและได้รับจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนโดยไม่คิดมูลค่า อัตราส่วน 4 หุ้นสามัญเพิ่มทุน ต่อใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย กำหนดราคาใช้สิทธิ 0.85 บาท
 
ทั้งนี้ การเพิ่มทุนดังกล่าวเพื่อรองรับการพัฒนา Platform, Application และ Website ของบริษัทฯ เพื่อการเจริญเติบโตของธุรกิจออนไลน์ในอนาคต , การลงทุน Media และ Data Mining สำหรับแปลงสภาพกิจการ TV Shopping จาก Satellite TV เป็น Digital TV, การขยายกิจการ Call Center และ AI Robotic Telemarketing และ รองรับแผนงานปรับโครงสร้างธุรกิจ และขยายธุรกิจใหม่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับทีวี โฮม ช้อปปิ้ง เพื่อรับมือการถูกดิสรัปชั่น เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อจำนวนผู้ชมทีวีลดลง 40% รวมถึงการปรับเปลี่ยนสัญญาณทีวีดาวเทียม ส่งผลให้ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์รับสัญญาณทำให้ผู้ชมลดลงเช่นเดียวกัน โดยจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนและแปลงสภาพวอร์แรนต์ รุ่นที่ 3 มาใช้รองรับการพัฒนาธุรกิจเดิม, การขยายธุรกิจใหม่และเป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัท
 
สำหรับแผนปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัท จะมุ่งสู่การเป็นผู้ให้บริการ “Business Enabler Platform” เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจและสร้างการเติบโตให้กับผู้ประกอบการโดยเฉพาะ SMEs โดยวางกลยุทธ์ขับเคลื่อนองค์กรภายใต้ 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ 1. กลุ่ม Products Platform โดยบริษัทได้พัฒนาแอปพลิเคชัน TVD ซึ่งเป็นแอปฯอีคอมเมิร์ซ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันอยู่ในช่วงทดลองให้บริการและเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการปลายเดือนเม.ย.นี้ รวมทั้งจะเน้นการขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มโซเชียล คอมเมิร์ซและการทำไลฟ์ คอมเมิร์ซ โดยการสร้างทีมงานขึ้นใหม่เพื่อรองรับ รวมทั้งเพิ่มจำนวนคอลล์ เซ็นเตอร์ จาก 400 คน เป็น 600 คน ภายในปีนี้ 
 
2. กลุ่มServices Platform โดยมีบริการ BPO (Business Process Outsourcing) วางแผนกระบวนการทางธุรกิจ เพื่อสนับสนุนการทำธุรกิจของลูกค้าให้ง่ายขึ้น และ BTO (Business Technology Outsourcing) การให้บริการทางด้านเทคโนโลยีทางธุรกิจ เช่น บริการศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ เป็นต้น รวมถึงการให้บริการจัดส่งสินค้าแบบ Last Mile Delivery ภายใต้ชื่อ ‘Xpresso’ ปัจจุบันให้บริการใน 5 จังหวัด และจะเพิ่มเป็น 17 จังหวัดภายในปีนี้ ตลอดจนมีบริการ Fulfillment and Logistic หรือการจัดส่งสินค้าพร้อมบริการครบวงจร
 
3. กลุ่ม Services Business โดยจะรุกให้บริการด้าน Financial Solution แก่ฐานลูกค้า 6 ล้านราย และขยายธุรกิจใหม่ด้าน Crypto Mining หรือธุรกิจขุดเหมืองเงินดิจิทัล เนื่องจากมีความพร้อมด้านพื้นที่และบุคคลากร โดยเริ่มทดลองมาแล้วระยะหนึ่งและให้ผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจ และ 4. กลุ่ม Platform Application โดยต่อยอดการลงทุนสตาร์ทอัพ เช่น แพลตฟอร์ม eatsHUB ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มให้บริการรับ-ส่งอาหารของประเทศไทย, EATLAB สตาร์ทอัพที่พัฒนาโซลูชั่นเพิ่มประสิทธิภาพให้ธุรกิจร้านอาหารตลอด 24 ชั่วโมง, Blockfint ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Fintech รวมถึงการใช้เทคโนโลยี Blockchain, Kaspy สตาร์ทอัพพัฒนาแพลตฟอร์มซื้อ-ขาย สินค้าการเกษตรแบบครบวงจร และ 2read สตาร์ทอัพ สาย EdTech รวมทั้งได้พัฒนาแพลตฟอร์มอื่นๆ เช่น Senior 24 บริการดูแลผู้สูงอายุ, แพลตฟอร์ม DIY รวบรวมช่างรับซ่อมและเปลี่ยนอุปกรณ์ เป็นต้น 
 
“บริษัทจะมุ่งขยายธุรกิจใหม่ ๆ โดยเฉพาะธุรกิจด้าน B2B มากขึ้น เพื่อสร้างการเติบโตจากธุรกิจในกลุ่ม Non TV Home Shopping เติบโตอย่างน้อย 50% ในอีก 5 ปีข้างหน้า เพราะเรามองว่าการรับมือดิสรัปชั่นจะต้องกระจายธุรกิจที่หลากหลาย เพื่อเตรียมความพร้อมรับผลกระทบจากปัจจัยความไม่แน่นอนต่าง ๆ ซึ่งจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว” นายทรงพล กล่าว