นิวส์ คอนเน็คท์ - EAไตรมาส 4/62 เซ็นโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ลอยน้ำที่เวียดนาม ลุยเจรจาโซลาร์ฟาร์มเมียนมากว่า 100 เมกะวัตต์ รุกรับออเดอร์ผลิตรถบัส รถบรรทุกไฟฟ้า ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้า 4,500 คันเริ่มส่งมอบ มี.ค.63 ส่วนรายได้ปีนี้การันตีนิวไฮ

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2562 นางออมสิน ศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยในงานสัมมนาวิชาการประจำปี Energy Symposium 2019 ถึงความคืบหน้าในการลงทุนกิจการโรงไฟฟ้าโครงการใหม่ ว่า ช่วงไตรมาส 4/62 คาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) โครงการโซลาร์ลอยน้ำพ่วงด้วยแบตเตอร์รีในประเทศเวียดนามได้ โดยโครงการนี้เป็นการลงทุนใหม่ มีขนาดกำลังการผลิตขนาดใหญ่ นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมลงทุนในโครงการโซลาร์ฟาร์มพ่วงด้วยแบตเตอร์รีที่ประเทศเมียนมา ขนาดกำลังการผลิตหลัก 100 เมกะวัตต์ขึ้นไป คาดว่าจะได้ข้อสรุปการลงทุนในปี 63

สำหรับผลประกอบการในปี 62 คาดว่ารายได้ทุบสถิติใหม่ (นิวไฮ) หรือเติบโตมากกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากว่าจะรับรู้รายได้จากจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) โรงไฟฟ้าพลังงานลมหนุมาน จ.ชัยภูมิ ขนาด 260 เมกะวัตต์ เต็มปี ปัจจุบัน EA ยังคงมีกำลังการผลิตที่ COD จำนวน 664 เมกะวัตต์ และในปี 63 คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเกิน 20% จากปีนี้ หลังจากธุรกิจใหม่ ๆ เริ่มทยอยเข้าระบบ ก็น่าจะเริ่มเห็นสัดส่วนรายได้ของบริษัทเปลี่ยนแปลงไปจากปัจจุบันที่รายได้ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจผลิตไฟฟ้า

“บริษัทได้แสวงหาโอกาสการลงทุนใหม่อย่างต่อเนื่อง หลังจากโรงไฟฟ้าที่มีอยู่ในมือราว 664 เมกะวัตต์นั้นได้ COD ครบหมดแล้ว การลงทุนโรงไฟฟ้าโครงการใหม่ จะเน้นเป็นโครงการที่พ่วงด้วยแบตเตอร์รี ซึ่งในเบื้องต้นเรายังได้ผลิตเอง ก็จะใช้แบตเตอร์รีของพันธมิตรมาใช้ก่อน” นางออมสิน กล่าว

ส่วนความคืบหน้าในธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าของคนไทย 100% ภายใต้ยี่ห้อ MINE Mobility อยู่ระหว่างสร้างโรงงานประกอบ โดยปัจจุบันนำเข้าเครื่องมือเครื่องจักรการผลิต และจัดเตรียมชิ้นส่วนต่างๆ ไว้แล้ว โดยมั่นใจว่าโรงงานประกอบรถยนต์ไฟฟ้าจะแล้วเสร็จต้นปี 63 พร้อมดำเนินการผลิตแล้วทยอยส่งมอบได้ตามแผน 4,500 คันในเดือน มี.ค. 63 อย่างไรก็ตาม โรงงานประกอบรถยนต์ไฟฟ้าของ EA นั้นรองรับกำลังการผลิตได้กว่า 10,000 คันต่อปี

ล่าสุด EA ยังได้จัดตั้งบริษัท อีวีนาว จำกัด (EV Now) เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายรถบรรทุกไฟฟ้า รถบัสไฟฟ้า โดย EA ถือหุ้น 74.98% ส่วนอีกราว 25% ถือหุ้นโดยบุคคลธรรมดา 1 ราย ที่ไม่เข้าข่ายบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทจดทะเบียน โดยเริ่มมีคำสั่งซื้อเข้ามาบ้างแล้ว ทั้งที่เป็นรถบัสไฟฟ้า และรถบรรทุกไฟฟ้า

ขณะที่การลงทุนโครงการผลิตและติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ (EV Charging) ภายใต้แบรนด์ EA Anywhere ปัจจุบันดำเนินการไปแล้ว 400 สถานี คาดว่าสิ้นปี 62 จะดำเนินการติดตั้งได้ประมาณ 600-700 สถานี และดำเนินการครบ 1,000 สถานีในปี 63

ทั้งนี้การขยายลงทุนสถานีชาร์จไฟฟ้ารถยนต์นั้นดำเนินการติดตั้งทั้งในสถานีบริการน้ำมันของพันธมิตร ห้างสรรพสินค้า ต่างๆ คอนโดมิเนียม โดยในบางจุดคิดค่าบริการในลักษณะเป็นค่าจอดรถชั่วโมงละ 50 บาทบางจุดก็ให้ชาร์จไฟฟ้าฟรี แต่ในอนาคตจะมีการเก็บค่าบริการชาร์จไฟฟ้าตามราคาที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กำหนดแล้วแบ่งเป็นกำไรให้กับพันธมิตรในสัดส่วน 20% อย่างไรก็ตามในการลงทุนติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้านั้นคาดว่าจะคืนทุนและเริ่มมีกำไรในปี 63 โดยปัจจุบันนั้นมีกาใช้รถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ที่เป็นไฮบริดในไทยราว 40,000 คันคาดว่าความต้องการใช้จะเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ส่วนความคืบหน้าการลงทุนโรงงานผลิตแบตเตอรี่ คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปีนี้ เฟส 1 ขนาด 1 กิกะวัตต์-ชั่วโมง คาดสร้างเสร็จปลายปีนี้หรือต้นปีหน้าและเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ไตรมาส 2/63 โดยในเฟสแรกใช้เงินลงทุนราว 5,000 ล้านบาท หลังจากนั้นจะดำเนินการขยายในเฟส 2 จะขยายโรงงานผลิตแบตฯ เพิ่มเป็น 50 กิกะวัตต์-ชั่วโมง คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 100,000 ล้านบาท

#EA #พลังงานบริสุทธิ์ #โซลาร์ลอยน้ำ #PPA #หนุมาน