Phones





TTB โชว์กำไรQ1/65โต15% รุกหนักสินเชื่อบ้าน-เช่าซื้อ

2022-04-20 18:14:27 243



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - TTB แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1/65 โดยกำไรสุทธิ 3,195 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากไตรมาส 4/64 และเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน ขณะที่ยังเป้าสินเชื่อปี 65 เติบโตมากกว่าปีก่อน แม้ในไตรมาสแรกสินเชื่อจะชะลอตัว 0.4% ตามการชำระคืนสินเชื่อของธุรกิจรายใหญ่ ซึ่งปีนี้ยังเน้นการขยายสินเชื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อเช่าซื้อ
 
เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2565  - นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/65 ธนาคารมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรองฯ หรือ PPOP 8,818 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสก่อนหน้า หนุนโดยการบริหารจัดการด้านต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้านคุณภาพสินทรัพย์เป็นไปตามเป้าหมาย สัดส่วนหนี้เสียเมื่อเทียบกับสินเชื่อรวมลดลงมาอยู่ที่ 2.73% จาก 2.81% ในไตรมาสก่อน จึงทำให้การตั้งสำรองฯ ในไตรมาส 1/65 อยู่ที่ 4,808 ล้านบาท ลดลง 4% จากไตรมาสที่แล้ว ซึ่งหลังหักสำรองฯ และภาษี มีกำไรสุทธิไตรมาส 1/65 อยู่ที่ 3,195 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากไตรมาส 4/64 และเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน
 
สำหรับโดยรายได้จากการดำเนินงานในไตรมาส 1/65 อยู่ที่ 15,774 ล้านบาท ชะลอลง 4.4% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/64 และ 7.9% จากไตรมาส 1/64 สาเหตุหลักจากรายได้ค่าธรรมเนียมกลุ่มลูกค้ารายย่อยที่ยังคงชะลอตัว ในส่วนของรายได้ค่าธรรมเนียมกลุ่มลูกค้าธุรกิจปรับตัวดีขึ้นตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กลับมาฟื้นตัว
 
ขณะที่ตัวเลขสินเชื่อในไตรมาส 1/65 สามารถเติบโตสินเชื่อกลุ่มเป้าหมายได้ตามแผน โดยสินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเติบโตได้ที่ 1.2% และ 0.8% ตามลำดับ แต่จากการที่สินเชื่อลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ลดลง เนื่องจากมีการชำระคืนสินเชื่อหมุนเวียน ส่งผลให้สินเชื่อรวมอยู่ที่ 1,366 พันล้านบาท ลดลงเล็กน้อยที่ 0.4% จากไตรมาสที่ผ่านมา
 
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปี ถือว่าเป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยในปี 65 ธนาคารตั้งเป้าที่จะเติบโตสินเชื่อในอัตราที่มากกว่าปี 64 ตามภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว อย่างไรก็ดี การเติบโตก็จะยังคงเป็นไปอย่างระมัดระวัง เน้นเฉพาะสินเชื่อกลุ่มเป้าหมาย เช่น สินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อบ้าน ซึ่งธนาคารมีความชำนาญและเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้นำตลาด
 
นอกจากนี้ ธนาคารยังได้เปิดตัวบริษัทลูก ทีทีบี คอนซูมเมอร์ ตามแผนการปรับโครงสร้างหลังการรวมกิจการ โดย ทีทีบี คอนซูมเมอร์ จะเข้ามาช่วยผลักดันการเติบโตสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนประมาณ 5% ของสินเชื่อรวม ธนาคารจึงมองว่ายังมีโอกาสเติบโตได้อีกจากฐานลูกค้ารายย่อยที่เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าหลังการรวมกิจการ
 
ทั้งนี้ การกลับมาเติบโตสินเชื่อทั้งในส่วนของธนาคาร และจากทีทีบี คอนซูมเมอร์ ก็จะช่วยหนุนการฟื้นตัวของรายได้ดอกเบี้ยและอัตราผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อในช่วงถัดไป รวมถึงเป็นปัจจัยหนุนการรับรู้ Revenue Synergy หรือประโยชน์จากการรวมกิจการด้านรายได้จากการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการอื่น ๆ ให้กับลูกค้าในอนาคตด้วยเช่นกัน
 
ด้านคุณภาพสินทรัพย์นั้น จากการที่ธนาคารดำเนินการบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ ควบคู่กับการปรับปรุงคุณภาพพอร์ตสินเชื่อมาโดยตลอด ส่งผลให้คุณภาพพอร์ตเป็นไปตามเป้าหมายและมีสัดส่วนหนี้เสียอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม ขณะที่สินเชื่อภายใต้โปรแกรมให้ความช่วยเหลือก็ทยอยลดลงเป็นลำดับ โดยลูกค้าที่ออกจากโปรแกรมไปส่วนใหญ่สามารถกลับมาชำระคืนหนี้ได้ตามปกติ ทั้งยังมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เริ่มกลับมา อย่างไรก็ดี ธนาคารจะยังคงดูแลคุณภาพสินทรัพย์อย่างเข้มงวดและตั้งสำรองฯ ในระดับสูงต่อไป เพื่อความรอบคอบและคงฐานะการเงินให้มีความแข็งแกร่ง
 
“นอกเหนือจากการกลับมาเติบโตเงินฝากและสินเชื่อแล้ว ในปีนี้ธนาคารก็ยังมีแผนลงทุนและพัฒนาด้านดิจิทัล เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการในรูปแบบใหม่ ๆ เสริมความสามารถในการแข่งขันให้กับธนาคาร และยกระดับการให้บริการที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้าของเรา เพื่อสร้างชีวิตการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทยทั้งวันนี้ และอนาคต” นายปิติ กล่าว