Phones





KTC คอนเฟิร์มพอร์ตลูกหนี้ทะลุแสนล. อวดกำไรโค้งแรกปี65โต7%

2022-04-20 20:12:08 234



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - KTC ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/65 มีกำไรสุทธิ 1,752 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะที่พอร์ตลูกหนี้รวมเพิ่มขึ้นทะลุ 90,208 ล้านบาท มั่นใจมูลค่าพอร์ตสินเชื่อรวมปี 65 อยู่ในระดับสูงกว่า  100,000 ล้านบาท แต่ยังให้ความสำคัญกับคุณภาพพอร์ตสินเชื่อ
 
เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2565 นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น จากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมต่างๆ รวมถึงนโยบายการเปิดประเทศและมาตรการแก้หนี้อย่างยั่งยืน ตลอดจนนโยบายส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ได้ทำให้เกิดการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศและภาคการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ผู้คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติ ส่งให้การใช้จ่ายในประเทศเพิ่มสูงขึ้น โดยสะท้อนผลมาสู่ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของ KTC ในไตรมาส 1/65 ให้ขยายตัวขึ้น 7.9% ด้วยมูลค่า 52,247 ล้านบาท
 
ขณะที่พอร์ตลูกหนี้ยังคงมีการเติบโต และรักษาคุณภาพพอร์ตที่ดี ทำให้การตัดหนี้สูญน้อยลง ด้วยนโยบายการบริหารที่เน้นการรักษาคุณภาพของพอร์ตอย่างเคร่งครัด เพื่อควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้อยู่ในอัตราต่ำอย่างต่อเนื่อง และพร้อมรับมือกับการขยายฐานลูกค้าใหม่ในกรอบความเสี่ยงที่ยอมรับได้ โดยในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา อัตราการอนุมัติสินเชื่อ (Approval Rate) ของ KTC ได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยหากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจยังคงรักษาระดับเช่นนี้และดีขึ้นต่อเนื่อง เชื่อว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้ตามที่วางไว้
 
สำหรับแนวทางการเติบโตทางธุรกิจในปี 65 โดยในส่วนของธุรกิจบัตรเครดิตจะเน้นขยายฐานบัตรร่วมกับพันธมิตรรายใหญ่ ทั้งการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ พัฒนาปรับปรุงบัตรเครดิตร่วม (Co-brand) ด้วยเป้าหมายการเติบโตของปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ 10% หรือประมาณ 220,000 ล้านบาท ส่วนธุรกิจสินเชื่อบุคคลจะขยายฐานสมาชิกใหม่ที่มีศักยภาพ ด้วยการนำเสนอบัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” เจาะกลุ่มผู้มีรายได้ประจำและมีฐานรายได้ที่สูงขึ้น โดยประมาณการเติบโตที่ 7%
 
ในส่วนของธุรกิจ “เคทีซี พี่เบิ้ม” และกรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง ตั้งเป้ามียอดลูกหนี้ 11,500 ล้านบาท ผ่านความร่วมมือกับเครือข่ายธนาคารกรุงไทยกว่า 900 สาขาทั่วประเทศ รวมทั้งการรักษาพอร์ตลูกหนี้ให้มีคุณภาพที่ดีในระดับเดิม ทั้งนี้ การจะนำพาธุรกิจให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เคทีซี จะมีค่าใช้จ่ายเชิงกลยุทธ์ในด้านการตลาดที่มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้ได้มาซึ่งส่วนแบ่งการตลาดที่สูงขึ้น
 
โดยคาดว่าในปี 65 KTC จะมีมูลค่าพอร์ตสินเชื่อรวมมากกว่า 100,000 ล้านบาท และกำไรที่สูงขึ้นกว่าเดิม รวมทั้งจะมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของคนไทย และยกระดับองค์กรสู่การเป็นผู้นำทางธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค ที่บูรณาการความยั่งยืนให้เป็นที่ประจักษ์ในระดับประเทศและระดับสากล
 

สำหรับผลการดำเนินงานของ KTC ในงวดไตรมาส 1/65 เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน มีกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการและงบการเงินรวม 1,752 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.3% และ 1,747 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.9% ตามลำดับ ฐานสมาชิกรวม 3,263,842 บัญชี แบ่งเป็นพอร์ตสมาชิกบัตรเครดิต 2,510,221 บัตร เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้และดอกเบี้ยค้างรับรวม 90,208 ล้านบาท จากการเข้าซื้อกิจการในบริษัท กรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง จำกัด (KTBL) อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อรวม (NPL) อยู่ที่ระดับ 3.6% เท่ากับไตรมาสก่อนหน้า
 
ในส่วนของเงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้บัตรเครดิตและดอกเบี้ยค้างรับรวม 57,929 ล้านบาท NPL บัตรเครดิตอยู่ที่ 1.2% พอร์ตสมาชิกสินเชื่อบุคคลเคทีซี 753,621 บัญชี เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้สินเชื่อบุคคลและดอกเบี้ยค้างรับรวม 29,125 ล้านบาท NPL สินเชื่อบุคคลอยู่ที่ 2.6% และ พอร์ตลูกหนี้ตามสัญญาเช่ามูลค่า 3,155 ล้านบาท โดยแนวโน้มยอดสินเชื่อลูกหนี้ใหม่ (New Booking) ของสินเชื่อเคทีซี พี่เบิ้ม และกรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง (KTBL) ในไตรมาส 1/65 เพิ่มขึ้น 112.6% จากไตรมาส 1/64 และเพิ่มขึ้น 27.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
 
ทั้งนี้ KTC ยังคงคำนึงถึงการสร้างความสมดุลของรายได้และค่าใช้จ่ายให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยควบคุมต้นทุนทางการเงินให้อยู่ในระดับใกล้เคียงเดิม และสร้างพอร์ตที่มีระดับความเสี่ยงสอดคล้องกับรายได้ที่คาดว่าจะได้รับ เป็นผลให้บริษัทมีฐานการขยายตัวของกำไรต่อเนื่อง โดยไตรมาส 1/65 มีรายได้รวม 5,357 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.7% จากไตรมาส 1/64 มีรายได้ค่าธรรมเนียมใกล้เคียงเดิม และมีหนี้สูญได้รับคืน 857 ล้านบาท มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีจำนวน 834 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายรวมลดลง 3.1% จากผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ลดลงที่ 13.2% และต้นทุนทางการเงินลดลง 7.4% ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 5.0% และค่าใช้จ่ายด้านโปรโมชันทางการตลาดสูงขึ้น เพื่อการลงทุนในการสร้างพอร์ต ที่หวังสร้างรายได้และผลกำไรให้กับธุรกิจในระยะยาว
 
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ดำเนินการนโยบายต่อเนื่อง เพื่อร่วมแบ่งเบาภาระสมาชิกที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ตามมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยข้อมูล ณ วันที่ 31 มี.ค.65 KTC ได้ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ในทุกสถานะเป็นจำนวนเงิน 2,278 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 2.63% ของพอร์ตลูกหนี้รวม
 
ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 มี.ค.65 บริษัทมีเงินกู้ยืมทั้งสิ้น 50,367 ล้านบาท ลดลง 4.9% จากช่วงเดียวกันของปี 64 โดยมีโครงสร้างแหล่งเงินทุนมาจากเงินกู้ยืมระยะสั้นและระยะยาว คิดเป็นสัดส่วน 29% ต่อ 71% ต้นทุนการเงินอยู่ที่ 2.6% อัตราส่วนของหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 2.0 เท่า ซึ่งต่ำกว่าภาระผูกพันที่กำหนดไว้ที่ 10 เท่า และมีวงเงินสินเชื่อคงเหลือ (Available Credit Line) 29,259 ล้านบาท