Phones





THRE เผยQ2/65ฟื้นตัวจากโควิด Q3ดัน"EMCS"เข้าmaiตามแผน

2022-05-12 09:48:18 1871



นิวส์ คอนเน็คท์ - THRE เผยทิศทางธุรกิจไตรมาส 2/65 ฟื้นตัวจากโควิด หลังกรมธรรม์ประกันภัยโควิดแบบ เจอ-จ่าย-จบ หมดอายุแล้วกว่า 90% ตั้งแต่สิ้นเดือน มี.ค.65 เดินหน้านำบริษัทลูก "EMCS" เข้าตลาด mai ยื่นไฟลิ่งช่วง Q3 นี้ ขณะที่งบ Q1/65 รายได้ 1,076.5 ล้านบาท ขาดทุน 184 ล้านบาท คาดดีมานด์ประกันภัยพุ่ง มั่นใจผลงานทั้งปี 65 พลิกเป็นบวก

เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2565 นายโอฬาร วงศ์สุรพิเชษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด (มหาชน) หรือ THRE ผู้ให้บริการด้านการรับประกันภัยต่อ (Professional Reinsurer) ครอบคลุมทั้งการรับประกันภัยทรัพย์สิน อุบัติเหตุ วิศวกรรม ภัยทางทะเลและการขนส่งสินค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึง ทิศทางแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 2/65 บริษัทคาดว่าจะมีแนวโน้มดีขึ้นกว่าไตรมาส 1/65 เนื่องจากกรมธรรม์ประกันภัยโควิด แบบ เจอ-จ่าย-จบ หมดอายุกว่า 90% ตั้งแต่สิ้นเดือนมี.ค.65 ที่ผ่านมาแล้ว ประกอบกับบริษัทมีรายได้จากธุรกิจอื่นๆ ยังเติบโตได้ดี ตามการเติบโตของธุรกิจ Non-Conventional หรืองานบริการร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์กับพันธมิตร ทั้งธุรกิจเทรนนิ่ง และบริการใหม่ด้วยเทคโนโลยี AI ที่เริ่มมีรายได้เข้ามาสนับสนุน

สำหรับแผนดำเนินงานต่อจากนี้ บริษัทมุ่งเน้นนำบริษัท อีเอ็มซีเอส ไทย จำกัด ( EMCS Thai : EMCS) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมในการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเตรียมเสนอขายหุ้น IPO ช่วงไตรมาส 3/65 ตามแผนที่วางไว้

โดยภายหลังการเข้าตลาดของกลุ่มบริษัทย่อย EMCS ทาง THRE จะได้รับประโยชน์จาก 1) ผลตอบแทนการขายหุ้น IPO 2) ลดการพึ่งพิงในการสนับสนุนบริษัทย่อยในการขยายธุรกิจ และ 3)มูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้นหลังเข้าตลาด ทั้งนี้ EMCS มีจุดแข็งทั้งด้านเทคโนโลยี และ DATA จากจำนวนลูกค้าที่บริษัททำเคลมปีละไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านเคลม ด้านเครือข่ายที่มีอู่ให้บริการกว่า 4,000 แห่ง และมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง ทำให้การขยายธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคง

ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 1/65 มีรายได้รวม 1,076.5 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,109.82 ล้านบาท และมีขาดทุนสุทธิ 184 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 53 ล้านบาท ทั้งนี้ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวลดลง เนื่องจากผลกระทบจากสถานการณ์โควิดมีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนเป็นจำนวนมากตั้งแต่ต้นปี 65 จนถึงปัจจุบัน ทำให้บริษัทมีผลขาดทุนจากค่าใช้จ่ายสินไหมทดแทนจากกรมธรรม์ประเภท เจอ-จ่าย-จบ

ส่วนภาพรวมแนวโน้มธุรกิจประกันภัยในปี 65 คาดว่าจะเติบโต 5-10% สะท้อนจากเศรษฐกิจของประเทศไทยเริ่มกลับมาฟื้นตัว รวมถึงผู้บริโภคตระหนักถึงการทำประกันภัยด้านต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น จึงทำให้การประกันสุขภาพ ประกันภัยอุบัติเหตุและการเดินทาง ประกันภัยทรัพย์สิน วิศวกรรม รวมถึงภัยทางทะเลและการขนส่งสินค้าต่างประเทศ คาดว่าจะเป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประกันอุบัติเหตุและการเดินทาง คาดว่ามีแนวโน้มฟื้นตัวกลับมา หลังจากไม่มีการล็อกดาวน์ประเทศ และภาคการท่องเที่ยวกลับมาคึกคักอีกครั้ง

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานทั้งปี 65 บริษัทมั่นใจว่าจะเติบโตดีกว่าปี 64 แน่นอน และคาดว่าจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ หลังผลกระทบจากสถานการณ์ Covid-19 ลดลง ขณะที่สัดส่วนรายได้จากพอร์ตการรับประกันของบริษัท แบ่งเป็น อุบัติเหตุและสุขภาพ 50% อสังหาริมทรัพย์ 10% กลุ่มรถยนต์ 31% ขนส่งสินค้าต่างประเทศ 2% และประกันภัยประเภทอื่น 8%