Phones





DTACเข็นกำไร1พันล. EBITDA เติบโต15.4%

2022-07-15 20:45:16 273



 
DTAC รายงานผลประกอบการงวดไตรมาส 2/65 มีกำไรสุทธิ 1,004 ล้านบาท โดยมีจำนวนผู้ใช้บริการทั้งหมดอยู่ที่ 20.3 ล้านราย เพิ่มขึ้น 412,000 รายจากไตรมาสก่อน รายได้ค่าบริการไม่รวม IC เพิ่มขึ้น 0.9% จากไตรมาสก่อน ขณะที่ EBITDA มีมูลค่า 8,290 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.4% จากไตรมาสก่อน โดย EBITDA margin อยู่ที่ 41.5%
 
เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2565 นายชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 2/65 สถานการณ์เศรษฐกิจมหภาคของประเทศไทยปรับตัวดีขึ้นอย่างช้าๆ เนื่องจากการผ่อนคลายการเดินทางระหว่างประเทศที่ทำให้นักท่องเที่ยวและแรงงานต่างด้าวเริ่มกลับเข้ามาในประเทศ แต่ ความท้าทายยังคงอยู่จากผลกระทบของโควิด-19 และอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นซึ่งส่งผลกระทบในทางลบต่อกำลังซื้อของลูกค้า รวมถึงการแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการโทรคมนาคมยังคงทวีความรุนแรงขึ้นในไตรมาส 2/65
 
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงให้ความสำคัญในกลยุทธ์เพื่อส่งมอบคุณค่าให้กับลูกค้าต่อไป โดยบรรลุเป้าหมาย 100% ในการขยายบริการ 5G ไปยัง 77 จังหวัดของประเทศไทย ในขณะที่ยังคงขยายโครงข่ายคลื่นความถี่ต่ำเพิ่มขึ้น 4,600 สถานีฐานในครึ่งแรกของปี 2565 ทำให้มีจำนวนสถานีฐานบนคลื่น 700 MHz ทั้งหมด 17,800 สถานี ณ สิ้นไตรมาส 2/65 จากความทุ่มเทนี้ทำให้บริษัทสามารถรักษาคะแนนความพึงพอใจที่มีต่อเครือข่ายสุทธิอยู่ในระดับที่สูง มีการร้องเรียนในเรื่องโครงข่ายการให้บริการลดลงอย่างต่อเนื่อง และมีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น 412,000 รายในไตรมาส 2/65
 
ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 2/65 DTAC มีจำนวนผู้ใช้บริการทั้งหมดอยู่ที่ 20.3 ล้านราย เพิ่มขึ้น 412,000 รายจากไตรมาสก่อน รายได้ค่าบริการไม่รวม IC เพิ่มขึ้น 0.9% จากไตรมาสก่อน และลดลง 2.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการแข่งขันที่เข้มข้น และรายได้ IDD ที่ลดลง ในส่วนของ EBITDA ช่วงไตรมาส 2/65 มีมูลค่า 8,290 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.4% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 2.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมี EBITDA margin (normalized) แข็งแกร่งอยู่ที่ 41.5% ในไตรมาสที่ 2/65 และมีกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 2/65 คิดเป็น 1,004 ล้านบาท
 
นายนกุล เซห์กัล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการเงิน DTAC กล่าวว่า กลยุทธ์ในการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางยังคงดำเนินต่อไป โดยมีลูกค้ากลุ่มธุรกิจ (B2B) และบริการที่นอกเหนือจากการเชื่อมต่อ (dtac beyond) เป็นปัจจัยในการขับเคลื่อน ซึ่งในปีนี้ DTAC ตั้งเป้าที่จะเพิ่มการเติบโตของรายได้เป็นตัวเลขาสองหลักจากธุรกิจ B2B โดยเน้นไปที่ SME และโซลูชั่นกับข้อเสนอบริการด้านการเชื่อมต่อสำหรับลูกค้ากลุ่มธุรกิจ ตลอดจนการเข้าเป็นพันธมิตรกับคู่ค้าทางธุรกิจเพื่อร่วมกันสร้างคุณค่า โดยในครึ่งปีแรกของปี 65 รายได้จากการให้บริการจาก B2B เติบโตขึ้น 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
 
นอกจากนี้ dtac beyond ยังคงเติบโตต่อเนื่องโดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 15% จากไตรมาสก่อน โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตของจำนวนผู้ใช้บริการและจำนวนธุรกรรมที่เพิ่มมากขึ้น และบริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนประสิทธิภาพซึ่งมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพในเชิงโครงสร้าง ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานช่วงครึ่งปีแรกของปี 65 ลดลง 11% จากปีก่อน
 
ขณะที่ EBITDA ในไตรมาส 2/65 เพิ่มขึ้น 15.4% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากได้รับผลกระทบทางบวกประมาณ 1 พันล้านบาท จากค่าใช้จ่ายในการติดตั้งวงจรกรองสัญญาณรบกวนคลื่นความถี่ 900 MHz ที่สามารถนำไปหักออกจากค่าธรรมเนียม USO ตามประกาศของ กสทช. และได้รับผลกระทบทางลบจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการประมาณ 140 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียว กำไรสุทธิสำหรับไตรมาสที่สองดีขึ้นจากไตรมาสก่อน โดยได้แรงหนุนจาก EBITDA ที่สูงขึ้น หักล้างด้วยประมาณการผลเสียหายที่เกิดจากเหตุการณ์เพลิงไหม้มูลค่าประมาณ 560 ล้านบาท CAPEX สำหรับไตรมาสนี้อยู่ที่ 3,343 ล้านบาท
 
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผลกระทบที่ยืดเยื้อจากโควิด-19 และการแข่งขันที่เข้มข้น DTAC จึงได้ปรับปรุงแนวโน้มสำหรับปีงบประมาณ 65 โดยบริษัทคาดว่าจะมีการส่งมอบรายได้จากการให้บริการ (ไม่รวมค่า IC) ที่คงที่จนถึงลดลงในอัตราร้อยละที่เป็นเลขหลักเดียวในระดับต่ำ ในขณะที่ EBITDA ซึ่งไม่รวมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการ จะอยู่ในช่วงแนวโน้มที่ให้ไว้ และปรับระดับการลงทุนมาอยู่ที่ 1.1-1.3 หมื่นล้านบาท