Phones





JMT ผลงานครึ่งปีหลังสดใส ธุรกิจเข้าไฮซีซั่น

2022-08-12 15:05:32 313



 
นิวส์ คอนเน็คท์ – JMT ธุรกิจเข้าสู่ไฮซีซัน หนุนผลงานเติบโตกว่าครึ่งปีแรก คาดสถาบันการเงินทยอยขายหนี้ด้อยคุณภาพออกมา และเป็นโอกาสในการเข้าซื้อหนี้ หนุนผลงานในปี 65 เติบโตมากกว่า 45% รวมทั้งยังมีอัพไซด์จากความร่วมมือกับบริษัทลูกของธนาคารกสิกรไทย คาดกสิกรไทยมีแผนโอนขายหนี้ NPL ล็อตแรกจำนวน 50,000 ล้านบาทภายในปีนี้
 
เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2565 นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังของปี 65 ซึ่งถือเป็นไฮซีซั่นของธุรกิจ ซึ่งคาดว่าผลประกอบการจะเติบโตกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากสถาบันการเงินต่างๆจะทยอยขายหนี้ด้อยคุณภาพออกมา เพื่อรักษาภาพรวมหนี้เสียในระบบ และเป็นโอกาสของ JMT ในการเข้าซื้อหนี้เพื่อนำมาบริหาร และจะช่วยให้ผลงานในปี 65 เติบโตไม่ต่ำกว่า 45% ตามเป้าหมายที่วางไว้
 
นอกจากนี้ ยังมีอัพไซด์จากความสำเร็จของดีลความร่วมมือกับบริษัทลูกของ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ประกาศร่วมทุน 10,000 ล้านบาท จัดตั้งบริษัท บริหารสินทรัพย์ เจเค จำกัด (JK AMC) ซึ่งถือเป็นบริษัทร่วมทุนแห่งแรกในไทย ระหว่างธนาคารพาณิชย์และบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) ตามนโยบายธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อแก้ไขปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่เพิ่มขึ้นจากสถานการณ์โควิด และได้เริ่มดำเนินการเมื่อมิ.ย.65 เป็นต้นมา จะส่งผลดีต่อการบริหารจัดการหนี้แบบ win – win เพิ่มความได้เปรียบของต้นทุนการบริหารหนี้ที่มีประสิทธิภาพ
 
ทั้งนี้ คาดว่า KBANK มีแผนโอนขายหนี้ NPL ให้แก่ JK AMC ล็อตแรกจำนวน 50,000 ล้านบาท ภายในปีนี้ และคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/65 เป็นต้นไป 
 
สำหรับผลประกอบการขงบริษัทในงวดไตรมาส 2/65 ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 433 ล้านบาท เติบโต 50% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน และมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,087 ล้านบาท เติบโต 33% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับ 65% และอัตรากำไรสุทธิ 37% เนื่องจากภาพรวมธุรกิจติดตามหนี้และธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ สามารถบริหารจัดการ และการจัดเก็บที่ดีต่อเนื่อง
 
โดยบริษัทมียอดจัดเก็บหนี้ (Cash Collection) อยู่ที่ 1,337 ล้านบาท เติบโต 37% ส่งผลให้ในช่วงครึ่งปีแรกมียอดจัดเก็บ 2,795 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน รวมทั้งพอร์ตหนี้ที่ซื้อเข้ามาบริหารมีฐานที่ใหญ่ขึ้น รวมไปถึง ฐานะการเงินแข็งแกร่ง และต้นทุนทางการเงินที่ต่ำลง จากแผนการเพิ่มทุนในช่วงปลายปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จ ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปี 65 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% และมีรายได้รวมอยู่ที่ 2,166 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน
 
ขณะที่ในไตรมาส 2/65 บริษัทใช้งบลงทุนซื้อหนี้ด้อยคุณภาพทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกันไปแล้วจำนวน 1,122 ล้านบาท จากเป้าหมายปีนี้วางงบลงทุน 10,000 ล้านบาท สนับสนุนพอร์ตหนี้ด้อยคุณภาพอยู่ที่ 245,320 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าซื้อหนี้เข้ามาบริหารจากสถาบันการเงิน โดยจะยังมีดีลอื่นๆเข้ามาอย่างต่อเนื่องหลังจากนี้
 
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย.65) ในอัตรา 0.49 บาทต่อหุ้น กำหนดวันปิดสมุดทะเบียน (Record Date) ในวันที่ 25 ส.ค.นี้ และกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 7 ก.ย.65