นิวส์ คอนเน็คท์ - BIS มั่นใจผลงานครึ่งปีหลังโตกว่าครึ่งปีแรก ส่วนทั้งปีรายได้พุ่ง 20% ตามแผนชัวร์ ตามยอดขายทุกผลิตภัณฑ์ขยายตัวต่อเนื่อง จ่อเปิดตัว “Canna BIS” เปิดขายQ4/65    

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2565 นายสัตวแพทย์ธนวัฒน์ คงเจริญสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ จำกัด (มหาชน) หรือ BIS เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังจะเติบโตกว่าครึ่งปีแรก ตามการจำหน่ายเวชภัณฑ์ เครื่องมือ อุปกรณ์ และผลิตภัณฑ์สำหรับปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ช่วงไตรมาส 4/2565 บริษัทเตรียมเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ “Canna BIS” เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลสัตว์เลี้ยงผสม CBD สำหรับสุนัข และแมว ซึ่งเป็นการคิดค้นพัฒนาสูตรโดยอาจารย์สัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน CBD ในสัตว์ ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดย BIS ได้มีการทำ MOU วิจัยพัฒนาร่วมกับคณะสัตวแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา 

สำหรับ “Canna BIS” ผลิตภัณฑ์ผสม CBD กลุ่มแรกที่จะออกมาวางจำหน่ายในช่วงไตรมาส 4/2565 ประกอบด้วย 1.แชมพู Canna BIS Hypoallergenic 2.แชมพู Canna BIS Anti-itch 3.โฟมอาบน้ำแห้ง Canna BIS และ 4.Canna BIS CBD Isolated Oil โดยบริษัทมีความคาดหวังจะได้ส่วนแบ่งทางการตลาด (Market share) ที่ประมาณ 10-20% ของมูลค่าตลาดรวมในกลุ่มเพื่อการรักษาสัตว์เลี้ยงที่มีมูลค่า 450 ล้านบาท 

อย่างไรก็ตาม ในปี 2565 บริษัทยังคงมั่นใจผลการดำเนินงานจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งบริษัทได้ตั้งเป้าหมายรายได้รวมจะเติบโตประมาณ 20% โดยรายได้หลักคิดเป็นประมาณ 80% จะมาจากอุตสาหกรรมปศุสัตว์ ซึ่งเป็นธุรกิจต้นน้ำของอุตสาหกรรมอาหาร และรายได้จากธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่มีการเติบโตสูง ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้ที่ 20% และในอนาคตสัดส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงจะเพิ่มขึ้นอยากต่อเนื่อง 

นายสัตวแพทย์ธนวัฒน์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรกของปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.06 บาท โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันที่ 24 สิงหาคม 2565 และจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 9 กันยายน 2565

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 13.18 ล้านบาท ลดลง 38.75% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 21.52 ล้านบาท และมีรายได้รวม 502.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.06% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 492.15 ล้านบาท ส่งผลให้ในช่วงครึ่งปีแรก (มกราคม-มิถุนายน) บริษัทมีกำไรสุทธิ 30.12 ล้านบาท ลดลง 8.89% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 33.06 ล้านบาท และมีรายได้รวม 1,042.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 921.39 ล้านบาท 

​

โดยสาเหตุหลักที่กำไรสุทธิที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรทั่วโลก ทำให้จำนวนประชากรสุกรในภาพรวมลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญในปีที่ผ่านมา จึงทำให้ความต้องการและกำลังซื้อของลูกค้าสำหรับสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ยาและวัคซีนสัตว์ (Animal Health) ลดลง ดังนั้น ในไตรมาส 2/2565 บริษัทจึงต้องลดราคาเพื่อระบายสต็อคสินค้าที่ใกล้หมดอายุ จึงทำให้มีอัตรากำไรน้อยลง อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าวเป็นการได้รับผลกระทบเพียงชั่วคราวเท่านั้น

ขณะเดียวกันบริษัทพยายามที่จะเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้สูงขึ้น และสร้างอัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) ที่ดี โดย BIS จะใช้กลยุทธ์การผลิตสินค้าแบรนด์ของบริษัทเองแทนการจ้างผลิต เพื่อเพิ่มรายได้ของกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ วัตถุดิบอาหารสัตว์ และลงทุนในการพัฒนาวัคซีนสำหรับสัตว์เพื่อจำหน่ายในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ทดแทนการนำเข้าวัคซีนจากต่างประเทศ และการเพิ่มสินค้าใหม่ที่ช่วยขยายตลาด

​นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ยา วัคซีน และเวชภัณฑ์สำหรับสัตว์และสัตว์เลี้ยง มีแนวโน้มการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวจากการเปิดประเทศ การท่องเที่ยว กำลังซื้อของผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ฟาร์มสุกรกำลังเริ่มฟื้นตัว ทำให้มีความต้องการในผลิตภัณฑ์ยา วัคซีน วิตามินและเสริมอาหาร ตลอดจนชุดตรวจโรคต่างๆ เพิ่มมากขึ้นตามจำนวนสุกร ทำให้ BIS ซึ่งอยู่ในห่วงโซ่ของอุตสาหกรรมอาหารได้รับประโยชน์โดยตรง