Phones





“พีดีเฮ้าส์” โชว์ยอดขาย 9 เดือน ทะลุ 900 ล้านบ.

2022-10-11 18:46:51 155



นิวส์ คอนเน็คท์ - พีดีเฮ้าส์ ชิงแชร์เพิ่ม ตลาด กทม.-ปริมณฑล โชว์ผลงานรอบ 9 เดือน โกยยอดขายทะลุ 900 ล้านบาท หวั่นโค้งสุดท้ายเจอพิษน้ำท่วม ต้นทุนวัสดุพุ่ง ฉุดกำลังซื้อชะลอตัว เร่งปรับแผน จับมือแบรนด์วัสดุชั้นนำ ตอกย้ำจุดขายบ้านประหยัดพลังงาน บ้านสุขภาพ ยกระดับคุณภาพสร้างบ้านหนีคู่แข่ง พร้อมลุยเปิดสาขาตลาดต่างจังหวัด สาขาที่ 28 พระนครศรีอยุธยา มั่นใจสิ้นปีโกยยอดขายทุกสาขาทะลุ 1.2 พันล้าน

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2565 นายพิศาล ธรรมวิเศษ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด หรือศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านแข่งขันกันสูงมาก สวนทางกับกำลังซื้อผู้บริโภคที่ฟื้นตัวแบบช้า ๆ ในขณะที่ต้นทุนค่าวัสดุก่อสร้างและค่าแรงปรับตัวสูงขึ้นมาก จึงทำให้บริษัทฯ ต้องมีการปรับตัวอยู่ตลอดเวลา เพื่อสามารถรับมือกับต้นทุนที่ผันผวนและสถานการณ์แข่งขันที่เกิดขึ้น ทั้งด้านการบริหารจัดการ กระบวนการก่อสร้าง และการบริการลูกค้าที่ครบวงจร สามารถตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้เป็นที่พอใจมากที่สุด ภายใต้แนวคิด บ้านอนุรักษ์พลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 

ส่งผลให้ยอดขายบ้านในระยะ 9 เดือนที่ผ่านมายังคงเติบโตต่อเนื่อง หรือมียอดขายรวมกว่า 900 ล้านบาท โดยลูกค้าสร้างบ้านในกลุ่มราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาทได้รับความนิยมสูงสุด หรือคิดเป็น 53% รองลงมาเป็นบ้านในกลุ่มราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป-10 ล้านบาท คิดเป็น 32% และบ้านในกลุ่มราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปอีก 15% ทั้งนี้ลูกค้าที่ใช้บริการสร้างบ้านส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักธุรกิจในพื้นที่ แพทย์ พยาบาล ข้าราชการ รวมถึงชาวต่างชาติและคนไทยในต่างประเทศ ที่ต้องการกลับมาสร้างบ้านและใช้ชีวิตหลังเกษียณในเมืองไทย

“ปัจจัยสำคัญที่ทำให้พีดีเฮ้าส์มียอดขายเติบโตคือ จุดขายในเรื่องการสร้างบ้านประหยัดพลังงาน บ้านสุขภาพ และบ้านผู้สูงอายุ ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบัน ที่หันมาใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล บริษัทฯ สามารถแชร์ส่วนแบ่งลูกค้าเป้าหมายจากตลาดได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยบ้านในกลุ่มราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท กำลังซื้อและความต้องการกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง นอกจากนี้การขยายสาขาในต่างจังหวัด นับเป็นจุดแข็งอีกข้อหนึ่งที่ช่วยให้สามารถเข้าถึงและอำนวยความสะดวกกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้เป็นอย่างดี ล่าสุดได้ทำการเปิดศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์สาขาพระนครศรีอยุธยา นับเป็นสาขาที่ 28 อีกหนึ่งแห่ง”

สำหรับไตรมาสสุดท้ายปี 2565 นี้ ประเมินว่าความต้องการปลูกสร้างบ้าน มีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นกว่าไตรมาสที่ผ่านมา ด้วยประชาชนทั่วไปนิยมเลือกช่วงเวลาหลังสิ้นสุดฤดูฝนเริ่มการปลูกสร้างบ้านหลังใหม่ สังเกตได้จากลูกค้าที่ชะลอการตัดสินใจก่อนหน้านี้ เริ่มกลับมาเจรจากันใหม่และสรุปตกลงปลูกสร้างบ้าน อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยที่น่าเป็นกังวลในเรื่องภัยธรรมชาติหรือปัญหาน้ำท่วมในหลาย ๆ พื้นที่ทั่วประเทศ รวมถึงการพาเหรดปรับราคาของวัสดุก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะทำให้ราคาบ้านต้องปรับขึ้นอีก 5-7% และอาจกระทบต่อกำลังซื้อผู้บริโภคในอนาคต
นางสาวถิรพร สุวรรณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เจ้าของสิทธิ์และผู้บริหารมาตรฐานศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “พีดีเฮ้าส์ได้ศึกษาและนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้เพื่อเพิ่มความสามารถในการจัดการงานภายในได้อย่างถูกต้องแม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น สามารถรองรับปริมาณงานและลูกค้าในอนาคตได้มากกว่าเดิมเท่าตัว รวมถึงการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ช่วยเป็นฉนวนและลดอุณหภูมิหรือลดการใช้พลังงานภายในบ้าน นอกจากนี้ยังติดตั้งอุปกรณ์ที่ช่วยดูแลสุขภาพของผู้อยู่อาศัย โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ ช่วยป้องกันฝุ่น PM 2.5 ระบายความชื้นและป้องกันการเกิดเชื้อรา โดยจับมือพันธมิตรวัสดุแบรนด์ชั้นนำทั้งในและต่างประเทศในราคาที่สมเหตุสมผล อันเป็นการยกระดับคุณภาพการสร้างบ้านให้แตกต่างจากผู้ประกอบการรับสร้างบ้านทั่วไป โดยปีนี้คาดว่าจะสามารถแชร์ส่วนแบ่งตลาดรับสร้างบ้านได้เพิ่มมากขึ้น หรือมียอดขายรวมกันทุกสาขากว่า 1,200 ล้านบาท”