Phones





SEAFCO ประกาศงบการเงินไตรมาส 3/65 ขาดทุนลดลง 31.69%

2022-11-15 08:36:55 91



นิวส์ คอนเน็คท์ – SEAFCO แจ้งงบไตรมาส 3/65 มีผลขาดทุนสุทธิ 38.98 ล้านบาท ขาดทุนลดลง 31.69% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้านโบรกประเมินผลงาน SEAFCO เริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 4/65 ก่อนพลิกกลับมามีกำไรอีกครั้งในปี 66 แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 4.30 บาท

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 ดร.ณรงค์ ทัศนนิพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAFCO เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวดไตรมาส 3/65 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิจำนวน 38.98 ล้านบาท ขาดทุนลดลง 31.69% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 57.07 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการงวด 9 เดือนของปี 65 มีผลขาดทุนสุทธิจำนวน 139.14 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น 296.55% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 35.09 ล้านบาท  

ขณะที่รายได้จากการรับจ้างงวดไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 145.54 ล้านบาท ลดลง 27.84% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่มีรายได้ 201.69 ล้านบาท ในส่วนของรายได้งวด 9 เดือนแรกของปี 65 อยู่ที่ 553.13 ล้านบาท ลดลง 51.89% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่มีรายได้ 1,149.73 ล้านบาท

“เราประเมินไว้อยู่แล้วว่า ตัวเลขผลประกอบการจะยังมีการขาดทุนอยู่ เพราะยังรับรู้รายได้เข้ามาไม่มากนัก แต่มั่นใจว่าผลประกอบการไตรมาส 4/65 จะเห็นสัญญาณเทิร์นอะราวด์แน่นอน เพราะจะเริ่มดำเนินงานในโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ซึ่งได้รับงานมาจาก บมจ. ช.การช่าง มูลค่างานราว 800-900 ล้านบาท โดยจะรับรู้รายได้บางส่วนเข้ามาในเดือนธ.ค.65” ดร.ณรงค์ กล่าว

ด้านบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า ผลประกอบการของ SEAFCO ในไตรมาส 4/65 มีโอกาสฟื้นตัวมากขึ้นจากงานใหม่ที่เริ่มรับรู้รายได้ เช่น โครงการทางด่วนพระราม2-บ้านแพ้ว, โครงการ Tenth Avenue และโครงการ Central Embassy ทำให้การรับรู้รายได้และอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น โดยปัจจุบันมี Backlog อีกราว 1,400 ล้านบาท

ขณะที่ SEAFCO ยังมีโอกาสได้งานใหม่อีกหลายโครงการ ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีม่วงส่วนต่อขยาย ที่คาดว่าจะได้รับงานฐานราก 3 สถานี วงเงินราว 1,000 ล้านบาท, งานถนนของภาครัฐที่อยู่ระหว่างเจรจา วงเงินราว 500 ล้านบาท และรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนต่อขยาย ซึ่งน่าจะเห็นความชัดเจนในปี 66 รวมทั้งยังอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่วงเงินรวม 8,700 ล้านบาท ซึ่ง SEAFCO คาดว่าจะได้รับงานสัดส่วน 10-15%  

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยคาดว่าจะเริ่มเห็นผลประกอบการ SEAFCO เป็นบวกในไตรมาส 4/65 และในปี 66 จะเริ่มเห็นการพลิกฟื้นของกำไรจากการเข้าโครงการใหม่ Central Embassy และงานโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง แต่ยังต้องติดตามการเพิ่มขึ้นของจำนวนคนงานว่าจะเป็นไปตามที่ SEAFCO คาดไว้หรือไม่ ซึ่งมีผลต่อความคืบหน้าของงานและการรับรู้รายได้ โดยฝ่ายวิจัยได้ปรับใช้ราคาเหมาะสมปี 66 ที่ระดับ 4.30 บาท โดยยังคงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร”