Phones





TPSจ่อเทรด15พ.ย.นี้ เปิดราคาIPOที่ 2.50บ./หุ้น

2019-11-04 12:38:59 281





นิวส์ คอนเน็คท์ - TPS กำหนดราคา IPO ที่ 2.50 บาท เปิดจอง 5-7 พ.ย.62 หวังเข้าเทรด 15 พ.ย.นี้ หวังนำเงินขยายธุรกิจ - ชำระเงินกู้ ฟาก FA ระบุ หลังระดมทุนแล้วหนุนศักยภาพรับงานเพิ่มอีกเพียบ


เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2562 นายบุญสม กิจเกษตรสถาพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TPS เปิดเผยว่า ได้กำหนดราคาเสนอขายไอพีโอจำนวน 80 ล้านหุ้นในราคาหุ้นละ 2.50 บาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาทโดยจะเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 5-7 พฤศจิกายนนี้ และคาดว่าจะเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 ในกลุ่มเทคโนโลยีโดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า TPS


สำหรับการเสนอขายหุ้นไอพีโอครั้งนี้ได้แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายโดยมีผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายชั้นนำ 5 แห่งประกอบด้วยบริษัทหลักทรัพย์เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ทรีนิตี้ จำกัด บริษัท หลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซียไซรัส จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์เอเซียพลัส จำกัด


ด้านนางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้รับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชน (IPO) ของบริษัท เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TPS กล่าวว่า ราคาขายหุ้นไอพีโอของ TPS กำหนดราคาที่ 2.50 บาท/หุ้น คิดเป็นค่าพีอีเรโช 11.57 เท่า โดยเปรียบเทียบกับค่า P/E เฉลี่ยของบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ที่มีลักษณะการประกอบธุรกิจคล้ายคลึงกันซึ่งเทรดที่ P/E 15.6 เท่า และเปรียบเทียบกับ P/E ของกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศเทรดอยู่ที่ P/E 20.68 เท่า


โดย P/E ดังกล่าวคำนวณจากผลประกอบการในอดีต 4 ไตรมาสย้อนหลังโดยที่ยังมิได้พิจารณาถึงผลการดำเนินงานในอนาคตจาก (1) โอกาสในการเข้าประมูลงานเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของตลาดเทคโนโลยีสารสนเทศและการลงทุนของภาครัฐเพื่อขับเคลื่อนประเทศตามนโยบายประเทศไทย 4. 0 (2) การเพิ่มขึ้นของรายได้จากการให้บริการดูแลและบำรุงรักษาระบบจากการต่อสัญญาของลูกค้าเดิมและสัญญาจากลูกค้าใหม่ตามการขยายฐานลูกค้าโครงการเพิ่มขึ้นและ (3) อัตราค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายที่คาดว่าจะดีขึ้นจากความประหยัดต่อขนาดรายได้ตามการเพิ่มขึ้นของฐานรายได้จากงานโครงการซึ่งคาดว่า P / E จะลดลงได้อีกมากซึ่งราคาดังกล่าวถือว่าเป็นระดับราคาที่มีส่วนลดให้กับนักลงทุนในระดับที่น่าพอใจ


ทั้งนี้ การเข้าจดทะเบียนในตลาด mai ในครั้งนี้จะทำให้บริษัทเข้าถึงแหล่งเงินทุนโดยเม็ดเงินส่วนใหญ่จะนำมาใช้ในการเข้าไปทำโครงการได้ขนาดใหญ่ขึ้นและต่อยอดธุรกิจได้มากขึ้นในขณะที่บริษัทฯมีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรผู้เชี่ยวชาญประสบการณ์ที่จะสามารถสร้างธุรกิจเติบโตได้อย่างต่อเนื่องตามการเติบโตของอุตสาหกรรม IT ด้วยปัจจัยที่สนับสนุนสำคัญคือการลงทุนของหน่วยงานภาครัฐโดยมีงบประมาณรายจ่ายมากถึง 3 ล้านล้านบาท สำหรับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติเพื่อส่งเสริมสังคมดิจิทัลและสร้างการเข้าถึงการใช้บริการสื่อสารอย่างเท่าเทียม ตามแผนการปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจโดยการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี (ประเทศไทย 4. 0) และแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (Digital Economy) มุ่งเน้นโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล


อีกทั้ง การระดมทุนครั้งนี้จะช่วยรองรับโครงการลงทุนต่างๆทั้งในปัจจุบันและอนาคตรวมถึงจะช่วยเพิ่มฐานทุนให้บริษัทฯมีศักยภาพในการเข้าประมูลงานในโครงการขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าสูงขึ้นที่สำคัญปัจจุบัน TPS มีโครงการในมือรอรับรู้รายได้ประมาณ 378.42 ล้านบาทและยังไม่นับรวมโครงการที่อยู่ระหว่างการเจรจาภาครัฐและเอกชนที่คาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นอีกด้วยโดยตั้งเป้าหมายที่จะมีอัตราการเติบโตของรายได้อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องในอนาคต


อนึ่ง TPS มีผลการดำเนินงานย้อนหลังรายได้จากการขายและบริการในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2562 เมื่อเทียบกับปี 2561 เติบโตกว่า 55% ในขณะที่กำไรสุทธิเติบโตกว่า 503% โดยมีอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นประมาณ 34%


ทั้งนี้ บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการในปี 2559-2561 และงวด 6 เดือนแรกปี 2562 เท่ากับ 595. 97 ล้านบาท 847. 54 ล้านบาท 536. 58 ล้านบาทและ 321. 31 ล้านบาท



#TPS
#เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น
#IPO
#MAI
#บล.เคจีไอ