นิวส์ คอนเน็คท์ - BCP ลุยลงทุนนวัตกรรม SynBio ลั่น 1-2 ปีตั้งโรงงานไบโอชีวภาพ รับผลประกอบการปีนี้หดตัวจากปีก่อน หลังเจอพิษสงครามการค้า เผยแผนดัน BBGI เข้าตลาดหุ้นยังต้องรอดูทิศทางตลาดก่อน

เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2562 นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยภายหลังสัมมนา SynBio Forum 2019 ชีวนวัตกรรม ศาสตร์เปลี่ยนโลกอัพเดตความก้าวหน้าเทคโนโลยีชีวภาพโลก ที่ สำนักงานใหญ่ บางจากฯ อาคาร เอ็ม ทาวเวอร์ สุขุมวิท ว่า ภาพรวมผลการปี 2562 คาดว่าจะต่ำกว่าปี 2561 ที่มีรายได้รวม 194,171 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 2,462 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา เศรษฐกิจชะลอตัว และผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่า

ส่วนทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกช่วงไตรมาส 4/62 ไม่สามารถประเมินได้เนื่องจากตลาดมีความไม่แน่นอนซึ่งต้องติดตามดูการประชุมขององค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออก (โอเปก) ในช่วงเดือนธันวาคมนี้ ส่งครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มเป็นไปในทางที่ดีขึ้น ประกอบกับปริมาณการผลิตน้ำมันลดลงในประเทศสหรัฐอเมริกาดังนั้น ทิศทางน้ำมันจึงยากที่จะคาดการณ์

อย่างไรก็ตาม หากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกช่วงไตรมาส 4/62 ทรงตัวใกล้เคียงกับไตรมาส 3/62 เฉลี่ยในระดับ 59-61 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลก็จะไม่ขาดทุนสต๊อกน้ำมัน ขณะที่กำลังการกลั่นน้ำมันในปีนี้คาดว่าจะอยู่ในระดับ 110,000-120,000 บาร์เรลต่อวัน

ส่วนการลงทุนจัดตั้งโรงงานไบโอชีวภาพเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์นวัตกรรม SynBio เช่น วัสดุชีวภาพ ผลิตภัณฑ์อาหาร และเครื่องสำอาง ทั้งนี้ในเบื้องต้นกลุ่ม BCP อยู่ระหว่างหาพื้นที่ซึ่งได้ศึกษาไว้หลายพื้นที่ด้วยกันทั้งในจังหวัดขอนแก่น จังหวัดกาญจนบุรีคาดว่าภายใน 1-2 เดือนจะได้ข้อสรุปพื้นที่ตั้งโรงงาน ขณะที่แผนการลงทุนนั้นคาดว่าจะใช้ระยะเวลาราว 1-2 ปีถึงจะได้ข้อสรุป โดยการลงทุนไบโอชีวภาพนั้นจะดำเนินการลงทุนภายใต้บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ BBGI ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BCP

โดย SynBio เป็นการนำนวัตกรรมมาสร้างสิ่งมีชีวิต (Living Organisms) ด้วยฝีมือของมนุษย์ ไม่ใช่การเกิดโดยธรรมชาติ ผสานความรู้ทางด้านชีววิทยา เทคโนโลยี และวิศวกรรมเข้าด้วยกัน เพื่อแก้ปัญหาทรัพยากรโลกและพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์และยั่งยืนจากสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติ เพื่อลดการใช้วัตถุดิบจากทรัพยากรธรรมชาติ ลดขั้นตอนในกระบวนการผลิต ลดการปล่อยของเสีย ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และลดต้นทุน

“กลุ่มบางจากให้ความสำคัญกับการนำนวัตกรรมมาเพิ่มคุณค่าให้กับทรัพยากรธรรมชาติเพื่อสร้างความยั่งยืนมาโดยตลอด เรายึดแนวการทำธุรกิจภายใต้ BCG Model สอดคล้องกับแนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยมี 3 แนวหลักคือ B (Bio economy) หรือเศรษฐกิจชีวภาพ มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า C (Circular economy) เศรษฐกิจหมุนเวียน คำนึงถึงการนำวัสดุต่างๆ กลับมาใช้ประโยชน์มากที่สุด และ G (Green economy) เศรษฐกิจสีเขียว มุ่งแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ลดผลกระทบต่อโลกอย่างยั่งยืน”

สำหรับการนำ BBGI เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้น เบื้องต้นยังคงยึดตามกรอบระยะเวลาเดิม คือ ช่วงปลายปี 63 แต่ก็ต้องดูทิศทางตลาด และภาพรวมเศรษฐกิจในปีหน้าก่อน

นายชัยวัฒน์ กล่าวถึง การลงทุนในธุรกิจลิเทียมในประเทศอาร์เจนตินา ว่า จะเริ่มดำเนินการผลิตปลายปี 2563 เนื่องจากได้รับสัญญาซื้อขายระยะยาวแล้วขนาดกำลังการผลิต 40,000 ตันต่อปี ซึ่งในส่วนนี้ BCP จะมีส่วนรับซื้อราว 6 พันตันต่อปี และจะรับรู้รายได้เต็มปีในปี 2564 ทั้งนี้การลงทุนเหมืองแร่ลิเทียม ของ BCP เป็นการลงทุนผ่านการถือหุ้น 15.8% ใน Lithium Americas Corp. (LAC) ขณะที่ LAC เป็นผู้ถือหุ้น 50% ร่วมกับ Ganfeng Lithium ถือหุ้นอีก 50% ใน Minera Exar ซึ่งเป็นผู้พัฒนาเหมืองแร่ลิเทียมในอาร์เจนตินา