Phones
หน้าแรก
Stock
เศรษฐกิจมหภาค
แบงก์ - Finance
อสังหาริมทรัพย์ - Marketing
ประกัน - ท่องเที่ยว
Variety
สกู้ป พิเศษ
SET
A5 ยื่นไฟลิ่ง ลุยคลอดหุ้นกู้ ชูดอกเบี้ยสูงสุด 7.50%
MAI
AUCT ปลื้ม! ถูกจัดเป็นหุ้น ROE สูงกว่า 15% ต่อเนื่อง 3 ปี
IPO
MASTEC ปิดโรดโชว์ 10 จังหวัด ลุย IPO 79 ล้านหุ้น
บล./บลจ
orbix INVEST ออกแคมเปญช่วยชดเชยขาดทุน
เศรษฐกิจ-การเงิน-การคลัง
SCB EIC ลุ้นกนง.หั่นดอกเบี้ยสู่ 1.25% หลังศก.ไทยยังเผชิญความเสี่ยง
การค้า - พาณิชย์
พาณิชย์ เดินสายโซนตะวันออกจัดสัมมนาเชิงเทคนิค ครั้งที่ 2
พลังงาน - อุตสาหกรรม
TSE คว้ารางวัลพลังงานยอดเยี่ยม Thailand Energy Award 2 ปีซ้อน
คมนาคม - โลจิสติกส์
SJWD ชูโซลูชันโลจิสติกส์ รับมือปิดด่านเขมร
แบงก์ - นอนแบงก์
EXIM BANK สานต่อโครงการ “คุณสู้ เราช่วย เฟส 2”
ไฟแนนซ์ - ลิสซิ่ง
คาร์ฟอร์แคช ส่งบริการใหม่ “รับเงินไวสุดใน 1 ชั่วโมง”
SMEs - Startup
KBTG ผนึก InsureMO พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลเชื่อมระบบนิเวศประกันภัย
ประกันภัย - ประกันชีวิต
คปภ. Kick off โครงการ “OIC Be Smart First Jobber ปีที่ 4”
รถยนต์
นิสสัน ปรับปรุงสายการผลิตในไทย เสริมแกร่งการแข่งขันด้านต้นทุน
ท่องเที่ยว
VRANDA ชี้ท่องเที่ยวส่งสัญญาณฟื้นตัว เด้งรับ ‘เที่ยวคนละครึ่ง’
อสังหาริมทรัพย์
SAM ยกทรัพย์กว่า 4,000 รายการ พร้อมโปรโมชั่นเอาใจลูกค้าหาดใหญ่
การตลาด
TCL ยกทัพนวัตกรรมทีวี ‘C Series’ QD Mini LED บุกทั่วไทย
CSR
KBTG ผนึก InsureMO พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลเชื่อมระบบนิเวศประกันภัย
Information
วิริยะประกันภัย จัดแมตช์ฟุตบอลกระชับมิตรตำรวจ
Gossip
AMARC สุดฮอต โบรกฯ เพิ่มเป้าราคา 2.70 บาท
Entertainment
TCL เปิดแคมเปญ “CALRITY CHALLENGE"
สกุ๊ป พิเศษ
PTG แกร่งทุกมิติ ชู Non-Oil เรือธง
CIS ส่องตลาดหุ้นสหรัฐฯเย้ายวลใจ ชี้เป้า “หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี”
2023-02-09 16:54:02
305
sharer
นิวส์ คอนเน็คท์ – CIS มองระยะสั้นตลาดหุ้นสหรัฐฯ เสน่ห์แรง หลังนักลงทุนโยกเงินกลับไปลงทุน โดยเฉพาะหุ้นเทคโนโลยี ทั้งกลุ่มหุ้นบิ๊กแคป และกลุ่มหุ้นเติบโต ขานรับแรงหนุนตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ลดลงต่อเนื่องติดต่อกันสามเดือน หนุนตลาดคาดหวัง FED เร่งใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายเร็วกว่าคาด และปรับลดดอกเบี้ยในปีนี้เป็นครั้งแรก
เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 นายณพวีร์ พุกกะมาน นักลงทุนและผู้ก่อตั้ง Creative Investment Space (CIS) สถาบันให้ความรู้ด้านนวัตกรรมการลงทุนรูปแบบใหม่ เปิดเผยว่า ในระยะสั้นตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกากลับมาได้รับความสนใจ และมีเม็ดเงินลงทุน (ฟันด์โฟลว์) ไหลกลับไปลงทุนอีกครั้ง โดยเฉพาะหุ้นเทคโนโลยีในตลาด NASDAQ ทั้งกลุ่มหุ้นบิ๊กแคป FAANGMAN และกลุ่มหุ้นเติบโต TESLA โดยปัจจุบันสามารถสร้างผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีได้แล้วกว่า 13.80% ขณะที่ดัชนี S&P500 สร้างผลตอบแทนได้แล้วกว่า 7.25%
สาเหตุมาจากตลาดมองทิศทางนโยบายการเงินที่เคร่งครัดของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ มาตลอดทั้งปี 2565 เริ่มผ่อนคลายลงในปีนี้ และอาจเห็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่มีการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ไตรมาส 2/65 เพราะแนวโน้มเงินเฟ้อสหรัฐฯ เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น หลังจากตัวเลขปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่องกว่าสามเดือนติดต่อกันแล้ว
“ถึงแม้ว่าประธาน FED จะยังคงยืนยันในที่ประชุม FOMC ครั้งล่าสุด และการไปพูดที่สมาคมเศรษฐกิจวอชิงตันเมื่อไม่กี่วันมานี้ ว่าปีนี้จะยังไม่มีการลดดอกเบี้ยจนกว่าจะเห็นเงินเฟ้อลงมาในระดับ 2% ตามเป้าหมายเสียก่อน แต่การที่เงินเฟ้อสหรัฐฯ ลดลงมาต่อเนื่องสามเดือนติดต่อกัน ทำให้ตลาดมองล่วงหน้าว่าสุดท้ายแล้วในปีนี้ FED ต้องปรับนโยบายดอกเบี้ยมาเป็นขาลงเร็วกว่าที่คาดไว้” นายณพวีร์ กล่าว
นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีมุมมองบวกต่อกระแสการปรับลดพนักงานของบริษัทเทคโนโลยี เพราะเป็นผลดีต่อผลประกอบการในอนาคตมากกว่าผลเสีย เนื่องจากจะช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานลง ทำให้นักลงทุนบางกลุ่มตัดสินใจเข้าไปเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น
สำหรับดัชนี S&P500 นอกจากได้ประโยชน์จากหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่แล้ว ยังได้ประโยชน์จากหุ้นแวลูขนาดใหญ่ที่ประกอบธุรกิจดั้งเดิม เช่น กลุ่มธนาคารที่ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกออกมาดีกว่าคาดเกือบทั้งหมด ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังออกมาดูดี ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร หรือ Non-Farm Payroll ที่ออกมาดีกว่าคาดค่อนข้างมาก ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่ที่ไม่ใช่เทคโนโลยีด้วย
สำหรับภาพรวมทางเทคนิคทั้งดัชนี NASDAQ และ S&P500 ต่างขึ้นมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันได้สำเร็จ และมีการทะลุผ่านเส้นเทรนด์ไลน์ในภาพใหญ่ออกมาแล้วทั้งคู่ ถือได้ว่าสามารถกลับตัวจากขาลงเป็นขาขึ้นได้สำเร็จ ทำให้ทั้งสองดัชนีมีความน่าสนใจทั้งในเชิงพื้นฐานและกราฟเทคนิค
อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องจับตาดูตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ประจำเดือนมกราคมที่จะประกาศในกลางเดือนนี้ (14 ก.พ. 66) ถ้าหากยังปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สี่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับตลาดว่าในที่สุด FED ต้องลดดอกเบี้ยในปีนี้อย่างแน่นอน แต่หากตัวเลขที่ออกมาคงที่ หรือ เพิ่มขึ้น อาจสร้างความผิดหวังให้กับตลาดจนนำไปสู่ความเชื่อเดิมว่า FED จะลดดอกเบี้ยในปีหน้า และมีผลทำให้เทขายในสินทรัพย์ต่าง ๆ ได้ นอกจากนั้นยังต้องติดตามการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่องว่ามีแนวโน้มจะเข้าสู่ภาวะถดถอย (Recession) ตามที่ดัชนีชี้วัด Yield Curve บ่งบอกล่วงหน้าหรือไม่
ด้านมุมมองภาพรวมตลาดหุ้นอื่น ๆ อาทิ ตลาดหุ้นจีน ในช่วงสั้นอยู่ในระหว่างการพักฐานจากการที่ดัชนีบวกขึ้นแรงมาต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2565 แต่ในเชิงพื้นฐานยังถือว่ามีแนวโน้มบวกต่อเนื่องจากนโยบายเปิดเมือง เช่นเดียวกับ ตลาดหุ้นเวียดนาม ที่มีการพักฐานเช่นกัน แต่มุมมองในระยะยาวทั้งสองตลาดยังถือว่าสามารถเติบโตได้ตลอดทั้งปีนี้
“สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นเติบโต สามารถมองหาหุ้นเทคโนโลยีกลุ่ม Disruptive ในการถือลงทุนระยะยาวได้ เพราะจากกราฟเทคนิคตอนนี้เกือบทั้งหมดไม่มีการสร้างจุดต่ำสุดใหม่แล้วจึงมีโอกาสฟื้นตัวได้ โดยเฉพาะถ้าหากนโยบายการเงินของสหรัฐฯ กลับตัวเป็นขาลงจะยิ่งทำให้ฟันด์โฟลว์เข้ามาลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ ส่วนหุ้นแวลู หรือ หุ้นบิ๊กแคป ในตลาดสหรัฐฯ ก็ยังสามารถเติบโตได้เช่นกัน” นายณพวีร์ กล่าว
A5 ยื่นไฟลิ่ง ลุยคลอดหุ้นกู้ ชูดอกเบี้ยสูงสุด 7.50%
COCOCO เอ็มโอยู 2 หน่วยงาน เสริมแกร่งด้าน ESG
ORN Backlog แตะ 2.6 พันล. ลุยเปิด 2 โปรเจ็กต์ใหม่ - TWPC ดันผลงานโต 2 หลัก
KUN ยื่นไฟลิ่งเตรียมออกหุ้นกู้ รองรับแผนพัฒนาโครงการใหม่
CH ครึ่งปีหลังยังดี เดินเกมระมัดระวังในภาวะตลาดโลกผันผวน
NL สอยงานใหม่เข้าพอร์ต Backlog ทะลุ 2.5 พันล. - PRAPAT ขยายตลาดบังคลาเทศ