Phones





PTTEPลุยแผน5ปีเน้นสำรวจแหล่งขุดเจาะเพิ่ม

2019-11-11 15:51:34 248




นิวส์ คอนเน็คท์ - PTTEP จ่อเคาะแผน 5 ปี ภายในธ.ค.นี้ หวังมุ่งเน้นสำรวจแหล่งขุดเจาะเพิ่ม พร้อมย้ำปริมาณขายปีนี้เข้าเป้า 3.45 แสนบาร์เรล/วัน


เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 นางชนมาศ ศาสนนันทน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการเงิน บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP เปิดเผยว่า ภายในเดือน ธ.ค.นี้ บริษัทเตรียมสรุปแผนการลงทุนระยะ 5 ปี (63-67) โดยจะมุ่งเน้นการสำรวจแหล่งขุดเจาะโดยเฉพาะในประเทศเมียนมา และมาเลเซีย ซึ่งมองว่าความต้องการอยู่ในระดับสูง


สำหรัยด้านความคืบหน้าการลงทุนต่อยอดการนำก๊าซจากแหล่งปิโตรเลียมไปสู่ธุรกิจโรงไฟฟ้า (Gas to Power) ในประเทศเมียนมา โดยบริษัฯเตรียมจะเพิ่มกำลังการผลิตก๊าซฯ จากแหล่งซอติก้าอีก 60 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน จากปัจจุบันที่ผลิตอยู่ 290 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และผลิตก๊าซฯ จากแหล่งเอ็ม 3 ที่อยู่ระหว่างสำรวจ เพื่อให้ได้ก๊าซรวม 400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เพื่อป้อนโรงไฟฟ้าขนาด 600 เมกะวัตต์ โดยกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้จำหน่ายในเมียนมา ปัจจุบันบริษัทฯอยู่ระหว่างหารือร่วมกับกลุ่มปตท. และได้เจรากับรัฐบาลพม่า โดยคาดว่าจะได้ความชัดเจนปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า หากมีความชัดเจนจะแจ้งให้ทราบต่อไป


ส่วนนโยบาย IMO2020 ถึงแม้ว่าจะทำให้เกิดความต้องการน้ำมันดิบมากขึ้น แต่การที่มีการจำกัดสัดส่วนปริมาณซัลเฟอร์ในเชื้อเพลิงที่ใช้ในการขนส่งทางเรือ อาจทำให้ราคาน้ำมันดิบที่มีซัลเฟอร์สูงอย่างน้ำมันดิบดูไบถูกกดดันราคามากขึ้นในช่วงปลายปี แต่อย่างไรก็ตาม กระทบต่อบริษัทฯเพียงแค่ 4% เท่านั้นในปี 2563


ในส่วนของช่วงที่เหลือของปีนี้ ประเมินว่าราคาน้ำมันดิบจะแกว่งตัวที่ระดับ 60-70 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล หลังได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว จากหลายปัจจัย อาทิ สงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน รวมถึงประเด็นการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ซึ่งกระทบต่อดีมานด์เป็นระยะเวลา 2 ปี เป็นต้น


ส่วนปริมาณการขายบริษัทฯคาดว่าปริมาณการขายเฉลี่ยของปี 2562 จะอยู่ที่ประมาณ 345,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ซึ่งเพิ่มขึ้นโดยหลักจากการเข้าซื้อกิจการของ Murphy ในประเทศมาเลเซียที่มีผลสมบูรณ์ในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา รวมถึง บริษัทฯยังมีปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นจาก Partex ในตะวันออกกลาง ซึ่งได้ทำการปิดดีลแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 4 พ.ย. โดยทั้งสองแหล่งบริษัทฯจะรับรู้เข้ามาในช่วงไตรมาส 4/2562 แบบเต็มไตรมาส และส่งผลให้ปริมาณการขายของบริษัทฯในปี 2562 เติบโต 5-7% จากปีก่อน พร้อมคาดว่าปีนี้จะสามารถทำ EBITDA Margin อยู่ที่ระดับ 70-75%