นิวส์ คอนเน็คท์ - ตลท.เผยแนวโน้มตลาดฯ 2 เดือนท้าย นักลงทุนต่างชาติวิ่งเข้า หลังมีปัจจัยรองรับเพียบ พร้อมแนะจับตาเทรดวอร์อย่างใกล้ชิด

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดฯ ในช่วงที่เหลือของปีนี้ เชื่อว่ายังได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะการเข้าลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ซึ่งคาดว่าช่วงที่เหลือจะมีเม็ดเงินอีกประมาณ 30,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยจากการประเมิน MSCI ที่คาดว่าจะมีหุ้นเข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งจะส่งผลต่อการตัดสินใจในการเข้าลงทุนมากยิ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจมองว่ายังสามารถขยายตัวได้ดีในช่วงปลายปี ทั้งจากภาคการท่องเที่ยวและภาคการส่งออกที่เริ่มฟื้นตัวได้เป็นลำดับ ส่วนปัจจัยภายนอกที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิดคือ ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐ และจีน

“ก่อนหน้านี้ นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิ ส่วนใหญ่มาจากการขายทำกำไร แต่สัดส่วนการถือครองของต่างชาติยังอยู่ในระดับเดิมคือ 30% โดยในระยะต่อไป นักลงทุนต่างชาติยังมองตลาดหุ้นไทยน่าสนใจ เนื่องจาก ตลาดหุ้นไทยมีนักลงทุนที่หลากหลาย มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย และมี Story โดยกลุ่มที่มี Story เช่น กลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน กลุ่มท่องเที่ยว โรงพยาบาล เป็นต้น" นายศรพล กล่าว

ในส่วนของภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์ ณ สิ้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ปิดที่ 1,601.49 จุด ลดลง 2.2% จากเดือนก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้น 2.4% จากสิ้นปี 2561 โดยกลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มทรัพยากร และกลุ่มบริการให้ผลตอบแทนมากกว่า SET Index

ด้านมูลค่าขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา อยู่ที่ 52,059 ล้านบาท ลดลง 4.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้าน Forward ของตลาดหลักทรัพย์ไทย อยู่ที่ 16.6 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ 18.5 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่ง Forward อยู่ที่ 14.9 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ 15.9 เท่า

ขณะที่อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนตุลาคมอยู่ที่ 3.14% สูงกว่าค่าเฉลี่ย MSCI Emerging Market ที่อยู่ที่ 2.86% สำหรับมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของ SET และ mai ณ สิ้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาอยู่ที่ 17.1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.3% จากสิ้นปี 2561 ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางของดัชนี

ทั้งนี้ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิในตลาดหลักทรัพย์ไทย 7,941 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อนหน้าเช่นเดียวกับตลาดอื่นในเอเชีย จากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐ และจีนที่มีทิศทางผ่อนคลายมากขึ้น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกอบกับการขยายเวลาการลงมติ Brexit ด้วย

สำหรับช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ มูลค่าระดมทุนไทยสูงสุดในภูมิภาค หลังจากการเข้าซื้อขายของบริษัท แอสเสท เวิล์ด คอร์ป (AWC) ซึ่งมูลค่าระดมทุนสูงสุดในภูมิภาคในปีนี้ สำหรับในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา มูลค่าการระดมทุนในตลาดแรก (IPO) ของไทยอยู่ที่ระดับ 67,071 ล้านบาท