Phones





IRPCปี63อัดงบลงทุน1.1-1.2 หมื่นลบ.

2019-11-12 18:11:04 410




นิวส์ คอนเน็คท์ - IRPC ปี 63 อัดงบ 1.1-1.2 หมื่นล้านบาท ลุยลงทุนโรงกลั่นผลิตน้ำมันยูโร5 คาดเริ่มก่อสร้างปลายปี 63 พร้อมลงทุนซื้อกิจการธุรกิจเม็ดพลาสติกพีพี คอมพาวด์ รวมถึงธุรกิจปิโตรเคมีขั้นปลาย ขณะที่โครงการ MARs เตรียมสรุปพันธมิตรไตรมาส 2/63 ลุ้นผลงานไตรมาส 4 ปีนี้ฟื้นตัว

เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2562 นายนพดล ปิ่นสุภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยที่สำนักงานใหญ่ ว่า ในปี 2563 บริษัทเตรียมงบลงทุนไว้ราว 1.1-1.2 หมื่นล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในโครงการ Ultra Clean Fuel (UCF) ซึ่งเป็นโรงกลั่นรองรับการผลิตน้ำมันมาตรฐานยูโร5 มูลค่าการลงทุนรวมราว 7,000 ล้านบาท แต่จะเริ่มใช้งบลงทุนในปีหน้าประมาณ 4,000 ล้านบาท คาดจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างปลายปี 2563 และสามารถเดินเครื่องผลิตได้ไตรมาส 4/2565 นอกจากนี้ ยังเตรียมงบสำหรับซ่อมบำรุงโรงกลั่นประจำปีอีกราว 2,000-2,500 ล้านบาท


พร้อมกันนี้ ในปี 2563 คาดว่าจะมีความชัดเจนในการซื้อกิจการได้อย่างน้อย 2 โครงการ โดยอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อกิจการโรงงานเกี่ยวกับธุรกิจเม็ดพลาสติกพีพี คอมพาวด์ (PP compound) เป็นเม็ดพลาสติกเกรดพิเศษ 1 โครงการสำหรับผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ โดยปัจจุบันการเจรจากับพันธมิตรต่างประเทศ ซึ่งมีความคืบหน้าไปมากแล้ว คาดว่าจะได้ข้อสรุปในไตรมาส 1/2563


สำหรับพันธมิตรที่เจรจาอยู่นั้น มีโรงงานผลิตในประเทศไทยที่มีเทคโนโลยีประสิทธิภาพสูงสามารถมาเต็มเติมในขบวนการผลิตของ IRPC และมีฐานลูกค้าที่ผลิตรถยนต์ในมือสามารถทำตลาดได้ทันที นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการเจรจาลงทุนซื้อกิจการในธุรกิจปิโตรเคมีขั้นปลาย คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปีหน้าเช่นกัน


ส่วนความคืบหน้าโครงการ Maximum Aromatics (MARs) หรือการผลิตผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ คาดว่าจะได้ข้อสรุปพันธมิตรในการร่วมลงทุนในไตรมาส 2/2563 โดยปัจจุบันมีการเจรจากับพันธมิตรต่างประเทศ ซึ่งมีฐานลูกค้ารองรับอยู่แล้วเพื่อเป็นการปิดความเสี่ยงเรื่องการจำหน่ายสิ้นค้า รวมถึงมีการเจรจากับกลุ่มบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ด้วย หากสามารถสรุปพันธมิตรได้แล้วคาดว่าปลายปี 2563 จะสามารถประกาศการลงทุนขั้นสุดท้ายได้ และเริ่มดำเนินการก่อสร้างในต้นปี 2564 และเดินเครื่องในปี 2568 โดยมูลค่าการลงทุนในเบื้องต้นอยู่ที่ 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ


ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 4/2562 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการผลิตน้ำมันเตากำมะถันต่ำตามมาตรฐาน IMO หรือ องค์การทางทะเลระหว่างประเทศ ซึ่งกำหนดให้เรือเดินสมุทรใช้น้ำมันเตากำมะถันต่ำ 0.5% จากเดิม 3.5% เริ่มตั้งแต่ 1 ม.ค.2563 ซึ่งปัจจุบัน IRPC สามารถผลิตได้ 52,000 ตันต่อเดือนเป็นไปตามแผน จากกำลังการผลิตรวม 60,000 ตันต่อเดือน โดยวางเป้าหมายขายในประเทศ 65% ส่งออก 35%


อย่างไรก็ตาม ตลาดเอเชียและตะวันออกกลางมีความต้องการน้ำมันเตากำมะถันต่ำมากถึง 9.3 ล้านตันต่อเดือน จากปัจจุบันมี Supply ในตลาดเพียง 4.7 ล้านตันต่อเดือน ซึ่งกำลังการผลิตในปัจจุบันไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด นอกจากนี้สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐเริ่มมีความคลี่คลาย ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำมันเบนซินมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ส่วนกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีในอยู่ระดับทรงตัว ดังนั้น ผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/2562 มีแนวโน้มดีขึ้น


สำหรับทิศทางราคาน้ำมันดิบดูไบ ในปี 2563 คาดว่าจะเคลื่อนไหวระดับ 65 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นจากเฉลี่ย 61 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ในปีนี้ รวมถึงน้ำมันสำเร็จรูปมีทิศทางที่ดีขึ้น จากปัจจัยหนุนของเกณฑ์ใหม่ IMO ที่ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันเตากำมะถันต่ำ และน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น ขณะที่ประเมินค่าการกลั่นพื้นฐาน (Market GRM) ในปี 2563 น่าจะดีขึ้นจากปีนี้


พร้อมกันนี้ IRPC ได้มุ่งเน้นกลยุทธ์ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและนวัตกรรมมาตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุด ทั้งคุณภาพและบริการ พร้อมจัดกระบวนการทำงานภายในใหม่ รวมศูนย์ทั้งฝ่ายขายและฝ่ายวิจัย ให้สามารถดำเนินงานได้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและรวดเร็วขึ้น ซึ่งจะช่วยเสริมความสามารถการแข่งขันเข้าสู่ตลาดผลิตภัณฑ์ชนิดพิเศษ (Specialties) ได้มากขึ้น และจะทำให้บริษัทฯ ได้มูลค่าเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งลดความผันผวนของราคาจากผลิตภัณฑ์กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) อีกด้วย


สำหรับความคืบหน้าของการร่วมทุนระหว่าง IRPC กับ บริษัท WHA Industrial Estate Rayong Co.,Ltd. เพื่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะดับบลิวเอชเอ รองรับ EEC ในอำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยองใน ขณะนี้พื้นที่ดังกล่าวได้รับการรับรองเป็นเขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ ประเภทเมืองใหม่อัจฉริยะ (New City) จากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมเปิดให้บริการต้นปี 2564