นิวส์ คอนเน็คท์ – BANPU เปิดตัว "BANPU NEXT" ลุยขยายธุรกิจพลังงานสะอาดครบวงจรวางเป้าปี 2025 สัดส่วน EBITDA เกิน 50% คาด ก.พ.63 จัดตั้งแล้วเสร็จ พร้อมสรุปเงินลงทุน เตรียมลงทุนโรงไฟฟ้าก๊าซในสหรัฐ และธุรกิจเหมืองแร่ ขณะที่กำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งกลุ่มวางเป้าแตะ 6,100 เมกะวัตต์

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU เปิดเผยภายในงานแถลงข่าวเปิดตัวบริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด (BANPU NEXT) ว่า BANPU NEXT มุ่งลงทุนและพัฒนาธุรกิจพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีพลังงาน เดินหน้าสร้างการเติบโตทางธุรกิจที่ตอบรับกับเทรนด์พลังงานแบบ 3Ds ซึ่งประกอบด้วย Decarbonization หรือ การใช้พลังงานที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์, Decentralization คือ การกระจายตัวการผลิตและจำหน่ายพลังงานแบบไม่รวมศูนย์ และ Digitalization การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล

พร้อมกับมุ่งเน้นความยั่งยืนตามหลัก ESG (Environment, Social and Governace) ที่สนับสนุนการผลิตและการใช้พลังงานสะอาด รวมถึงการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้อย่างชาญฉลาด เสริมความแข็งแกร่งของกลยุทธ์ Greener & Smarter ผลักดันให้ BANPU เป็นผู้ให้บริการสมาร์ทโซลูชั่นด้านพลังงานอย่างครบวงจร

สำหรับ BANPU NEXT เป็นการควบรวมบริษัทระหว่าง บริษัท บ้านปู อินฟิเนอร์จี จำกัด หรือ BPIN และบริษัท บ้านปู รีนิวเอเบิล เอนเนอร์จี จำกัด หรือ BRE ดำเนินขยายการลงทุนใน 6 ธุรกิจ ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน อาทิ โซลาร์ฟาร์ม พลังงานลม ตั้งเป้าปี 2025 มีกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 1,100 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันอยู่ที่ 300 เมกะวัตต์ 2.ธุรกิจโซลาร์รูฟท็อป ปัจจุบันมีกำลังการผลิตราว 100 เมกะวัตต์ตั้งเป้าในปี 2025 เป็น 500 เมกะวัตต์

3.ธุรกิจเอ็นเนอร์ยี่ สตอเรจ ที่ร่วมลงทุนกับบริษัท ดูราเพาเวอร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด ดำเนินการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในประเทศจีน โดยมีเป้าหมายกำลังการผลิตจาก 1 GWh ในปี 2025 เป็น 3 GWh 4.ธุรกิจ ELECTRIC VEHICLES หรือเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า โดยร่วมลงทุนกับบริษัท FOMM Corporation (FOMM) ประเทศญี่ปุ่นในสัดส่วนการถือหุ้น 21.5% ซึ่งเป็นผู้นำด้านการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กยี่ห่อ FOMM โดยในปี 2025 มีเป้าหมายผลิตและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นราว 34,000 คัน จากปัจจุบัน 100 คัน 5.ธุรกิจสมาร์ทซิตี้ ปัจจุบันดำเนินโครงการอยู่ 4 แห่งตั้งเป้าเป็น 9 แห่งในปี 2025 และ6.ธุรกิจEnergy trading คาดว่าจะเริ่มลงทุนได้ในประเทศญี่ปุ่นโดยมีเป้าหมายจำหน่ายไฟฟ้าได้ในระดับ 300 GWh

อย่างไรก็ตาม สำหรับการขยายการลงทุนธุรกิจใน BANPU NEXT คาดว่าจะหาแหล่งเงินกู้ได้ง่ายขึ้นในลักษณะกรีนบอนด์ ที่เหลือเงินลงทุนมาจากกระแสเงินลด 10% โดยปัจจุบันมีกระแสเงินสดในมือ ณ สิ้น 30 ก.ย. 62 ที่ 700 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยการลงทุนใน BANPU NEXT นั้นคาดว่ามีผลตอบแทนจากการลงทุนขั้นต่ำ 15% สำหรับข้อสรุปงบลงทุนใน BANPU NEXT จะมีข้อสรุปภายหลังจัดตั้งบริษัทแล้วเสร็จในเดือน ก.พ.2563

ทั้งนี้ ภายหลังปรับโครงสร้างธุรกิจจะส่งผลให้ธุรกิจพลังงานสะอาด ประกอบด้วยธุรกิจการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน โรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง เทคโนโลยีพลังงาน สมาร์ทซิตี้ และธุรกิจก๊าซธรรมชาติ มีสัดส่วน กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าจัดจำหน่าย (EBITDA) ในปี 2025 เกิน 50% จากปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ 25% ส่วนธุรกิจถ่านหิน และโรงไฟฟ้าถ่านหินจะมีสัดส่วนที่ต่ำกว่า 50% จากปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ 65-70%

นางสมฤดีกล่าวถึงเป้าหมายการผลิตไฟฟ้าของกลุ่ม BANPU ว่า ในปี 2025 ตั้งเป้ามีกำลังการผลิตไฟฟ้าเป็น 6,100 เมกะวัตต์ โดยในจำนวนนี้เป็นสัดส่วนของบ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP มีเป้าหมายกำลังการผลิตเป็น 5,300 เมกะวัตต์จากเป้าหมายเดิม 4,300 เมกะวัตต์ ซึ่งปัจจุบันนั้นมีกำลังการผลิตรวมอยู่ 3,000 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ในสัดส่วนของ BPP ปัจจุบันมีกำลังการผลิตรวม 2,800 เมกะวัตต์ ในจำนวนนี้แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าที่จ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว 2,170 เมกะวัตต์

นอกจากนี้ BPP ยังมีแผนลงทุนพัฒนาโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติที่สหรัฐฯ คาดว่าจะมีความชัดเจนในเร็วๆ นี้ พร้อมมีแผนลงทุนในธุรกิจเหมืองแร่ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตแบตเตอรี่ โดยมองโอกาสการลงทุนในประเทศอินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และมองโกเลีย ซึ่งเป็นฐานการผลิตของกลุ่มบ้านปูอยู่แล้ว ส่วนการลงทุนธุรกิจเชลล์แก๊สเพิ่มในประเทศสหรัฐ คาดว่าจะมีความชัดเจนในต้นปีหน้า