Phones





ส่งออกมี.ค.66มูลค่า2.7หมื่นล้านเหรียญฯ หดตัว4.2%

2023-04-26 16:58:32 195



นิวส์ คอนเน็คท์ - ส่งออกเดือน มี.ค.66 มูลค่า 27,654.4 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 4.2% โดยมูลค่าสูงสุดรอบ 12 เดือน รวมไตรมาสแรก การส่งออก ติดลบ 4.5% คาดไตรมาส 2 ลบน้อยลง และดีขึ้นช่วงครึ่งปีหลัง ทั้งปียังมั่นใจทำได้ 1-2% 

เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกเดือน มี.ค.2566 มีมูลค่า 27,654.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 4.2% คิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 942,939 ล้านบาท การนำเข้ามีมูลค่า 24,935.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 7.1% คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 860,535 ล้านบาท เกินดุลการค้า มูลค่า 2,718.8 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 82,403 ล้านบาท 

รวม 3 เดือนของปี 2566 (ม.ค.-มี.ค.) การส่งออกมีมูลค่า 70,280.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ลด 4.5% คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 2,373,189 ล้านบาท นำเข้ามูลค่า 73,324.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ลด 0.5% คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 2,508,390 ล้านบาท ขาดดุลการค้า มูลค่า 3,044.2 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินบาท มูลค่า 135,201 ล้านบาท

โดยการส่งออกที่ลดลง มาจากการลดลงของสินค้าอุตสาหกรรม 5.9% ลดต่อเนื่อง 6 เดือนติด โดยสินค้าที่หดตัว เช่น สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ลด 14.2% เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ ลด 6% เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ลด 13.7% อัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ) ลด 3.5% แต่รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เพิ่ม 1.4% เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เพิ่ม 16.7% อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด เพิ่ม 66.4% เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เพิ่ม 27.4% รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ เพิ่ม 5% หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ เพิ่ม 55.9%  

ส่วนสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร เพิ่มขึ้น 4.2% เป็นบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยสินค้าเกษตร เพิ่ม 1.2% สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร เพิ่ม 7.1% สินค้าสำคัญที่เพิ่มขึ้น เช่น น้ำตาลทราย เพิ่ม 73.9% ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เพิ่ม 5.7% ข้าว เพิ่ม 7.2% ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง เพิ่ม 94.5% ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ เพิ่ม 6.2% เครื่องดื่ม เพิ่ม 13.2% ไก่สด แช่เย็น แช่แข็ง เพิ่ม 47.9% ส่วนยางพารา ลด 41.1% อาหารสัตว์เลี้ยง ลด 25% ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ลด 17.8%   

สำหรับการส่งออกไปตลาดสำคัญส่วนใหญ่ดีขึ้น และหดตัวน้อยลง โดยตลาดหลัก ลด 0.8% เช่น จีน ลด 3.9% CLMV ลด 3.5% อาเซียน 5 ประเทศ ลด 2.1% สหภาพยุโรป ลด 7.3% แต่สหรัฐฯ เพิ่ม 1.7% ญี่ปุ่น เพิ่ม 10.2% ตลาดรอง ลด 3.4% เช่น เอเชียใต้ ลด 6.9% ทวีปออสเตรเลีย ลด 23.3% แต่รัสเซียและกลุ่ม CIS เพิ่ม 228% ตะวันออกกลาง เพิ่ม 3% ลาตินอเมริกา เพิ่ม 5.9% สหราชอาณาจักร เพิ่ม 5.8% และตลาดอื่น ๆ ลด 39.5% เช่น สวิตเซอร์แลนด์ ลด 43.5%

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวว่า ตัวเลขการส่งออกเดือนมี.ค.2566 ที่ทำได้ 27,654.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือว่าทำได้ดีกว่าที่ทุกสำนักประเมินเอาไว้ โดยส่วนใหญ่คาดว่าจะติดลบเป็นตัวเลข 2 หลัก แต่ผลออกมาติดลบแค่ 4.2% และยังลบน้อยกว่าประเทศส่งออกอื่น ๆ เช่น ญี่ปุ่น ลด 7.5% เกาหลีใต้ ลด 13.6% สิงคโปร์ ลด 5.2% อินเดีย ลด 13.9% ไต้หวัน ลด 19.1% เวียดนาม ลด 14.4% และมาเลเซีย ลด 7.3% เป็นต้น ส่วนมูลค่าก็เป็นมูลค่าสูงสุดในรอบ 12 เดือน แต่ถ้านับตั้งแต่มีการส่งออก เป็นตัวเลขที่ทำสถิติส่งออกสูงสุดเป็นลำดับที่ 2 รองจากตัวเลขเดือนมี.ค.2565 ที่ทำได้ 28,858 ล้านเหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้ แนวโน้มการส่งออกไตรมาส 2 การส่งออกจะยังติดลบ แต่เริ่มลดลง และจะเริ่มดีขึ้นตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นไป โดยตัวเลขทั้งปี ประเมินว่าจะทำได้ตามเป้า 1-2% ซึ่งเป็นตัวเลขสำหรับทำงาน ทั้งเชิงรุกและเชิงลึก โดยแต่ละเดือนจะต้องส่งออกได้ประมาณ 24,500 ล้านเหรียญสหรัฐ