Phones





PTG ท็อปฟอร์ม! ขยายธุรกิจ Oil และ Non-Oil เต็มสูบ

2023-05-26 17:19:19 268



PTG ท็อปฟอร์ม! ขยายธุรกิจ Oil และ Non-Oil เต็มสูบ (สกู๊ปพิเศษ)
เปิดหัวไตรมาสแรก ของปี 2566 เรียกว่า "ท็อปฟอร์ม" กันเลยทีเดียว สำหรับ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ภายใต้การนำทัพของ "พิทักษ์ รัชกิจประการ" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ โดยรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2566 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 284 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11,255.8% จากไตรมาส 4 ปี 2565 ที่มีกำไรสุทธิ 3 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 73.6% เมื่อเทียบงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 163 ล้านบาท โดยมีรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่ 50,936 ล้านบาท เติบโต 30.7% เทียบงวดเดียวกันปีก่อน และ 4.0% จากไตรมาสก่อนหน้า 

โดยมีปัจจัยหลักจากธุรกิจ Oil ที่รายได้เป็น 47,790 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.6% เทียบงวดเดียวกันปีก่อน และ 3.8% จากไตรมาสก่อนหน้า ในส่วนของธุรกิจ Non-Oil มีรายได้ 3,146 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74.6% เทียบงวดเดียวกันปีก่อน และ 6.7% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยการเติบโตหลักๆ มาจากธุรกิจก๊าซ LPG ที่มีรายได้ 1,941 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 89.1% ปัจจัยหลักจากปริมาณการจำหน่ายก๊าซที่ยังคงสร้างสถิติสูงที่สุดต่อเนื่อง โดยมีจำนวนขาย 151 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 42.9% เทียบงวดเดียวกันปีก่อน ขณะที่ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 12.86 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 32.4% เทียบงวดเดียวกันปีก่อน
ในส่วนของธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทย มีรายได้ 263 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82.8% เทียบงวดเดียวกันปีก่อน และ 5.1% จากไตรมาสก่อนหน้า จากการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้น 61.9% เทียบงวดเดียวกันกับปีก่อน หรือมีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 570 สาขา ณ สิ้นไตรมาสแรก และการกลับเข้ามาใช้บริการต่อเนื่องของกลุ่มลูกค้า PT Max Card และ PT Max Card Plus

“ผลดำเนินงานของบริษัท ฟื้นตัวตามการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การเดินทางในประเทศที่เพิ่มขึ้น หลังผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันในประเทศเพิ่มขึ้น 1.6% เทียบงวดเดียวกันปีก่อน และหนุนให้ปริมาณขายน้ำมันของบริษัทยังคงสร้างสถิติสูงสุดอย่างต่อเนื่อง โดยมีปริมาณขายน้ำมันทั้งสิ้น 1,474 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 16.6% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน และ 4.7% จากไตรมาสก่อนหน้า” นายพิทักษ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงรักษาความสามารถทำกำไรได้ดี โดยมีกำไรขั้นต้น 3,167 ล้านบาท เติบโต 23.0% เทียบงวดเดียวกันปีก่อน และ 10.0% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยหลักมาจากธุรกิจ Oil ที่เพิ่มขึ้น 18.5% เทียบงวดเดียวกันปีก่อน และ 13.6% จากไตรมาสก่อนหน้า เป็น 2,531 ล้านบาท ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) มีจำนวน 1,455 ล้านบาท เติบโต 15.2% เทียบงวดเดียวกันปีก่อน และเติบโต 24.6% จากไตรมาสก่อนหน้า  

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/2566 นั้น นายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ระบุว่า มีแนวโน้มการเติบโตอย่างโดดเด่น เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการเปิดประเทศท่องเที่ยว เห็นได้จากช่วงเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา มีประชาชนเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นจำนวนมาก และยังมีวันหยุดยาวต่อเนื่องหลายวันในช่วงเดือน พ.ค. ส่งผลให้ PTG มียอดขาย Oil และ Non-Oil เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มเติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ดังนั้น จึงมองว่ารายได้จะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้
สำหรับงบลงทุนในปี 2566 บริษัทฯ วางไว้ที่ 5,000-6,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็น การลงทุนขยายและปรับปรุงสถานีบริการน้ำมัน จำนวน 1,000-1,500 ล้านบาท และการเพิ่มจุดให้บริการธุรกิจ Non-Oil จำนวน 2,000-2,500 ล้านบาท รวมทั้งเพื่อรองรับธุรกิจใหม่ (New Businesses) จำนวน 1,500-2,000 ล้านบาท

เป้าหมายมีไว้พุ่งชน ...เชื่อว่า PTG ทำได้แน่นอน.