นิวส์ คอนเน็คท์ - กฟผ.แจง ผลิตไฟฟ้าจากก๊าซทดแทนโรงไฟฟ้าหงสาที่หยุดผลิตจากเหตุแผ่นดินไหว สปป.ลาว ส่วนเขื่อน กฟผ.ทุกแห่งไร้ผลกระทบ ขณะที่ BPP ชี้ไม่กระทบโครงสร้างหลักของหงสา ด้านไซยะบุรี-น้ำงึม 2 ของ CKP เดินเครื่องปกติ

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2562 นายจรรยง วงศ์จันทร์พงษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการควบคุมระบบกำลังไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า จากกรณีเหตุการณ์แผ่นดินไหว ขนาด 5.9 ริกเตอร์โดยมีศูนย์กลางในเมืองหงสา แขวงไซยะบุรี สปป. ลาวที่เกิดขึ้นเมื่อเวลา 04.03 น. ของวันที่ 21 พ.ย.62 นั้น เขื่อนทุกเขื่อนของ กฟผ.ในไทยไม่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวใน สปป.ลาว รวมทั้งสถานีไฟฟ้าแรงสูง​น่านตรวจสอบแล้วไม่มีความเสียหาย ทั้งนี้ เหตุการณ์แผ่นดินไหวนี้ ไม่มีไฟฟ้าดับ กฟผ. สามารถผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าอื่นที่ใช้ก๊าซธรรมชาติทดแทนโรงไฟฟ้าถ่านหินหงสาใน สปป.ลาวที่หยุดผลิตชั่วคราว จากผลกระทบแผ่นดินไหว ซึ่งคาดว่าคงจะหยุดผลิตอย่างน้อย 2 วัน โดยปกติแล้วต้นทุนค่าไฟฟ้าจากเชิ้อเพลิงก๊าซฯ สูงกว่าถ่านหิน

ขณะที่ บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP รายงานว่า กรณีเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ สปป.ลาว รวมทั้งอาฟเตอร์ช็อกที่เกิดขึ้นต่อเนื่องนั้น จากการตรวจสอบเบื้องตันของบริษัท ไฟฟ้ หงสา จำกัด ไม่พบผู้บาดเจ็บและความเสียหายที่มีนัยสำคัญโดยโครงสร้างหลักของโรงไฟฟ้าไม่ได้รับผลกระทบ มีเพียงความเสียหายที่เกิดขึ้นในส่วนของพื้นผิวสิ่งปลูกสร้างบางส่วนเท่านั้น โดยระบบนิรภัยของโรงไฟฟ้าทำงานด้วยการลดกำลังการผลิตลงและมีการระงับการเดินเครื่องของโรงไฟฟ้า เพื่อให้ทีมวิศวกรสามารถเข้าตรวจสอบระบบการทำงานทั้งหมด

"จากการตรวจสอบเบื้องต้น เครื่องจักรและอุปกรณ์สำคัญภายในโรงไฟฟ้า ยังอยู่ในสภาพปลอดภัย และสามารถกลับมาเดินเครื่องได้ในระยะเวลาอันสั้น พร้อมกันนี้ หากมีความคืบหน้าทางบริษัทจะรายงานเพิ่มเติมอีกครั้ง" รายงานข่าวจาก BPP ระบุ

อนึ่งโรงไฟฟ้าหงสา เป็นโรงไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง ขนาดกำลังผลิตติดตั้งรวม 1,878 เมกะวัตต์ และผลิตกระแสไฟฟ้าจำหน่ายให้กับ กฟผ. จำนวน 1,473 เมกะวัตต์ จำหน่ายให้กับ สปป.ลาว 100 เมกะวัตต์ ส่วนที่เหลือจะใช้สำหรับขบวนการผลิตทั้งในส่วนของเหมืองและโรงไฟฟ้า ดำเนินงานโดยบริษัท ไฟฟ้ หสา จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท อาร์เอช อินตอร์นฮั่นแนล (สิงคโปร์) คอร์ปอเรชั่น จำกัด (บริษัทย่อยทางอ้อมของ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH ร้อยละ 40 บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP ร้อยละ 40 และ Lao Holding State Enterprise ร้อยละ 20

ด้าน บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP ออกแถลงการณ์แจ้งสื่อมวลชนว่า "โรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี และน้ำงึม 2 ของทาง CKP ใน สปป.ลาว ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวแต่อย่างใด โดยรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 ยังคงเดินเครื่องผลิตและจ่ายไฟฟ้าให้กับ กฟผ. และรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาวตามสัญญาได้อย่างต่อเนื่องตามปกติ โครงสร้างและอุปกรณ์ทุกส่วนของโรงไฟฟ้าทั้ง 2 แห่ง เป็นไปตามข้อกำหนดและมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด”