Phones





EPGเดินหน้าลงทุน3ปี1.1พันล้าน

2019-11-22 18:08:07 399




นิวส์ คอนเน็คท์ - EPG กางแผนลงทุน 3 ปี ทุ่มงบ 1,100 ล้านบาท ขยายกำลังการผลิตโรงงานในสหรัฐเพิ่มเป็น 6,000 ตัน/ปี หวังเพิ่มโอกาสขยายตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม CLMV และตะวันออกกลาง โชว์ไตรมาส 2 ปี 62/63 กำไรสุทธิ 326 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.5%


เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 นายภวัฒน์ วิทูรปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โพลีเมอร์และพลาสติกแปรรูป เปิดเผยว่า ในช่วง 3 ปี ได้เตรียมงบลงทุนไว้ประมาณ 1,100 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตในธุรกิจหลักทั้ง 3 กลุ่ม ประกอบด้วย ธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ AEROFLEX, ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ภายใต้แบรนด์ AEROKLAS และธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก ภายใต้แบรนด์ EPP


สำหรับธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ AEROFLEX ซึ่งได้ทยอยลงทุนขยายโรงงานใหม่ในสหรัฐอเมริกาเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตคาดจะเริ่มก่อสร้างปี 2563 โดยเน้นใช้เครื่องจักรอัตโนมัติความเร็วสูง ขณะที่การลงทุนในประเทศของ AEROFLEX 5 อยู่ระหว่างดำเนินการ โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตประมาณ 6,000 ตัน/ปี ซึ่งจะช่วยให้มีโอกาสขยายตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มขึ้น เช่น ในกลุ่มประเทศ CLMV และตะวันออกกลาง

ส่วยธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ภายใต้แบรนด์ AEROKLAS ได้ขยายตลาดเข้าไปในทวีปแอฟริกา มากขึ้น เนื่องจากกลุ่มผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ของโลกหลายรายเข้าไปตั้งฐานการผลิตในทวีปดังกล่าว


ส่วนธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก ภายใต้แบรนด์ EPP เร่งทำการตลาดในประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทกล่องใส่อาหารและถ้วยน้ำดื่ม ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้ปรับเปลี่ยนมาใช้วัตถุดิบประเภทไบโอพลาสติก (Bio plastic) มีแผนที่จะขยายตลาดต่างประเทศที่มีความต้องการการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติก เช่น กัมพูชา ลาว พม่า ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย


สำหรับผลประกอบการงวด 6 เดือนของปี 2562/63 (เม.ย.-ก.ย.62) บริษัทมีรายได้จากการขายทั้งสิ้น 5,434.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.4% มีกำไรสุทธิ 541.3 ล้านบาท ลดลง 4.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่ไตรมาส 2 ปี 62/63 (ก.ค.62 – ก.ย.62) มีรายได้จากการขาย 2,762.5 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 2,682.3 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 3% มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 30.5% และมีกำไรสุทธิ 326.3 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 262.1 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 24.5%


ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 13 พ.ย.2562 มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานสิ้นสุด 30 ก.ย.2562 ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท รวมเป็นจำนวนเงิน 280 ล้านบาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่จะมีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) วันที่ 29 พ.ย.2562 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 12 ธ.ค.2562


ด้าน รศ.ดร เฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EPG กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจและทิศทางการเติบโตในช่วงต่อจากนี้ (ต.ค.62-มี.ค.63) ยังคงดำเนินการตามแผนกลยุทธ์ โดยคาดว่ารายได้จากขายในปี 62/63 เติบโตที่ 5-6% เนื่องจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และการชะลอตัวของสภาวะเศรษฐกิจโลก แต่คาดว่าจะรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ 28-30% เนื่องจากยังคงได้รับผลบวกจากราคาวัตถุดิบกลุ่มปิโตรเคมีที่ปรับลดลง และการผลิตที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น


ปัจจุบัน EPG มีสัดส่วนรายได้ แบ่งเป็น AEROKLAS 48%, AEROFLEX 29% และ EPP 23%