นิวส์ คอนเน็คท์ - NWR ตุนแบ็กล็อก 2.4 หมื่นล้านบาท ทุบสถิตินิวไฮ หนุนปี 63 เติบโตก้าวกระโดด พร้อมลุยประมูลงาน 4 แสนล้านบาท ขณะปี 62 ยอมรับรายได้หดตัวเล็กน้อย จากความล่าช้าของการรับมอบพื้นที่งานก่อสร้าง

เมื่อเร็วๆ นี้ นายปสันน สวัสดิ์บุรี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) หรือ NWR ผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยกับ สำนักข่าว "นิวส์ คอนเน็คท์" ว่า ผลประกอบการในปี 63 จะเป็นปีที่เติบโตแบบก้าวกระโดด หรือมีรายได้รวมอยู่ในระดับ 12,000-15,000 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) ราว 24,817 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยจะทยอยรับรู้รายได้จากปี 62 ประมาณ 20% ปี 63 ราว 40% และปี 64 สัดส่วน 40%

นอกจากนี้ คาดว่าจะรับรู้รายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ราว 800 ล้านบาท จากบริษัท แอ็ดวานซ์ พรีแฟบ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ NWR คาดว่ามีรายได้ 1,500-1,600 ล้านบาท ขณะที่ บริษัท ยูทิลิตี้ บิสิเนส อัลลายแอนซ์ จำกัด (UBA) โดย NWR ถือหุ้นในสัดส่วน 60% ธุรกิจบริหารจัดการน้ำเสียคาดว่าจะมีรายได้ 500 ล้านบาท

ขณะที่การประมูลงานในปี 63 ทาง NWR ได้ติดตามงานประมูลราว 1 ล้านล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ 95% เอกชน 5% โดยในจำนวนนี้ NWR เตรียมเข้าประมูลราว 400,000 ล้านบาท คาดว่ามีโอกาสได้งานราว 8-10% เข้ามาเติม Backlog อีก 35,000 ล้านบาท หนุนรายได้เติบโตต่อเนื่องอีกหลายปี

“ในปีหน้า เรายังคงเน้นเข้าประมูลงานโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ซึ่งมีหลายโครงการที่ติดตามงานประมูล ไม่ว่าจะเป็น โครงการรถไฟฟ้าสานสีส้ม ตะวันตก รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ รถไฟทางคู่ โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้า รวมถึงมองโอกาสเข้ารับงานรับเหมาช่วงต่อ หรือซับคอนแทรกต่อจากผู้รับเหมาหลัก อย่างโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน การพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส3 และท่าเรือมาบตาพุดเฟส3 เป็นต้น” นายปสันน กล่าว

นายปสันน กล่าวว่า โครงการรับเหมาก่อสร้างในต่างประเทศนั้น NWR สัดส่วนยังมีน้อยอยู่ แต่ได้ติดตามและเข้าไปประมูลงานในประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น เมียนมา สปป.ลาว กัมพูชา ล่าสุด บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาลงทุนในเหมืองแร่ที่ประเทศเมียนมา คาดว่าจะสำรวจแล้วเสร็จในครึ่งปีแรก 63

ส่วนผลประกอบการปี 62 คาดว่ารายได้รวมในระดับ 9,000-10,000 ล้านบาท ปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 61 โดยในจำนวนนี้มาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างราว 7,500-8,000 ล้านบาท เนื่องจากงานก่อสร้างโครงการภาครัฐเกิดการเวนคืนพื้นที่ล่าช้าส่งผลให้ผู้รับเหมาก่อสร้างเข้าพื้นที่ได้ล่าช้า ทำให้ทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือมีความล่าช้าออกไปด้วย นอกจากนี้ คาดว่าจะรับรู้รายได้จากแอ็ดวานซ์ พรีแฟบราว 1,100-1,200 ล้านบาท ถึงจุดคุ้มทุน รับรู้รายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 450 ล้านบาท UBA ราว 500 ล้านบาท