Phones





LHFG คอนเฟิร์มธุรกิจแข็งแกร่ง เดินหน้ารุก Digital Lending

2023-07-26 20:44:04 220



 
นิวส์ คอนเน็คท์ – LHFG มั่นใจธุรกิจของกลุ่มยังเติบโตต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง โดยยังคงเป้าสินเชื่อรวมเติบโตที่ระดับ 8-10% พร้อมรุกปล่อยสินเชื่อผ่านช่องทางดิจิทัลต่อเนื่อง หวังยอดสินเชื่อสิ้นปีนี้ทำได้ 1 พันล้านบาท ด้านธุรกิจกองทุนและธุรกิจหลักทรัพย์ เตรียมเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆตอบโจทย์การลงทุนของลูกค้า พร้อมรับมือความผันผวนของตลาด
 
เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 นายฉี ชิง-ฟู่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHFG เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 ขยายตัวต่อเนื่องจากอุปสงค์ในประเทศที่ขยายตัวดีทั้งการบริโภคภาคเอกชนและการท่องเที่ยว ภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวต่อเนื่องส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมทั้งได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินและการลงทุนใหม่ๆ ที่ครบวงจร และการ Synergy ภายในกลุ่มธุรกิจทางการเงิน และการสนับสนุนจาก CTBC Bank ผู้ถือหุ้นใหญ่ ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เติบโตได้ดี
 
โดยทิศทางธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังของ LHFG ยังคงให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างยั่งยืน Sustainable Banking การดำเนินธุรกิจอย่างมีสำนึกและมีส่วนช่วยรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และหลักธรรมาภิบาลที่ดี การออกผลิตภัณฑ์ที่สนับสนุนสิ่งแวดล้อม และการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจ ขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองของไทยในปัจจุบันที่ยังไม่มีความชัดเจนของการจัดตั้งรัฐบาลใหม่นั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนของนักลงทุนจากไต้หวันบ้าง โดยอาจจะชะลอการเข้ามาลงทุนออกไปก่อนเพื่อรอดูความชัดเจนของการเมืองของไทย แต่ยังไม่ถึงขั้นยกเลิกแผนการเข้ามาลงทุนในไทย
 
นางสาวชมภูนุช ปฐมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Bank กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของธนาคารช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 เป็นไปตามแผน โดยธนาคารมุ่งเติบโตในพอร์ตสินเชื่อที่สร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้นหรือกลุ่ม Higher Yield มีการขยายสัดส่วนสินเชื่อรายย่อย ทั้งสินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อบุคคล ภายใต้การจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม โดยสินเชื่อที่อยู่อาศัยเติบโตมากกว่า 16% จากสิ้นปี 2565 โดยธนาคารยังคงเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อรวมในปี 2566 ไว้ที่ระดับ 8-10% ตามเดิม หรือคิดเป็นยอดปล่อยสินเชื่อราว 2 หมื่นล้านบาท โดยตัวเลขสินเชื่อในช่วงครึ่งปีแรกเติบโตที่ระดับ 4.8%
 
นอกจากนี้ ธนาคารได้ขยายฐานลูกค้ารายย่อยผ่านช่องทางดิจิทัลโดย Mobile Application LHB YOU ที่ตอบโจทย์ การใช้งานของลูกค้าแต่ละบุคคล การออกผลิตภัณฑ์เงินฝาก B YOU MAX ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีด้วยการนำเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษ และปัจจุบันธนาคารอยู่ระหว่างพัฒนาช่องทางการสมัครสินเชื่อส่วนบุคคลผ่านทาง LHB You Mobile banking ซึ่งคาดว่าจะให้บริการภายในปีนี้ เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงบริการสินเชื่อบุคคลได้ง่าย สะดวกและรวดเร็ว
 
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันธนาคารมียอดปล่อยสินเชื่อผ่านช่องทางดิจิทัลราว 100 ล้านบาท แต่มั่นใจภายในสิ้นปีนี้จะมียอดปล่อยสินเชื่อแตะระดับ 1 พันล้านบาท รวมทั้งธนาคารมีแผนระยะ 3 ปี (2566-2568) จะขยายการเข้าถึง Digital ขึ้นมาอยู่ที่ 70-80% จากปัจจุบัน 67% ซึ่งปัจจุบันมียอดคนสมัครใช้ LHB YOU แล้ว 3 หมื่นราย โดยคาดว่าสิ้นปีนี้จะขึ้นมาอยู่ที่ 7.7 หมื่นราย และ ภายใน 4 ปี (2566-2569) จะขึ้นมาอยู่ที่ 5 แสนราย
 
ในส่วนของลูกค้าธุรกิจ ธนาคารมุ่งเน้นให้ลูกค้าใช้ LH Bank เป็น Operating Bank มากขึ้น การประสานการทำงานและทำการตลาดร่วมกันของบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงิน เพื่อใช้ฐานลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ธนาคารยังคง ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือลูกค้าธุรกิจและลูกค้าบุคคลที่ยังฟื้นตัวไม่ได้เต็มที่จากสถานการณ์โควิด-19 ให้สอดคล้องกับปัญหาและสถานะของลูกค้าแต่ละรายเพื่อให้ความช่วยเหลือได้อย่างเหมาะสมและตรงจุด รวมถึงสนับสนุนกลุ่มลูกค้า SME ที่กำลังขยายธุรกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
 
นอกจากนี้ ธนาคารได้นำความเชี่ยวชาญจาก CTBC Bank มาพัฒนาและต่อยอดด้านบริการ Trade Finance และ Global Markets เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต รวมถึงธนาคารยังมุ่งเน้นเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยีด้วย Digital Transformation และการนำระบบ Robotic Process Automation มาช่วยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และการนำ Data analytic tools ต่างๆ มาใช้งานในการขยายฐานลูกค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
 
ด้านนายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด หรือ LH Fund กล่าวว่า กลยุทธ์ธุรกิจหลักทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังจะยังคงเน้นขยายฐานลูกค้ากองทุนส่วนบุคคล ทั้งสถาบันและลูกค้ารายใหญ่พิเศษ (Ultra High Net Worth) โดยในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทได้ปรับการดำเนินการในการบริหารกองทุนโดยมีการวิเคราะห์ข้อมูลและปรับเปลี่ยนกองทุนหลัก (Master Fund) ในหลายกองทุนให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดในปัจจุบันและเพิ่มโอกาสในการสร้างผลการดำเนินงานที่ดีกว่าเดิม ส่วนกองทุนหุ้นไทยและกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ยังคงมีผลการดำเนินงานที่ดีต่อเนื่องเมื่อเทียบกับดัชนีชี้วัด สำหรับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพบริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบเพื่อบริการสมาชิกในรูปแบบ Target Date (Life Path) หรือการลงทุนที่ปรับเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุนแบบอัตโนมัติ
 
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนเพิ่มการประกอบธุรกิจทรัสตี ซึ่งปัจจุบันบริษัทปฏิบัติหน้าที่ทรัสตีของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยเพิ่มการประกอบธุรกิจทรัสตีของทรัสต์เพื่อกิจการเงินร่วมลงทุน (Private Equity Trust) ทรัสต์เพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Trust) และทรัสต์สำหรับธุรกรรมการเสนอขายโทเคนดิจิทัลที่อ้างอิงกระแสรายรับจากอสังหาริมทรัพย์ (Trust for Real Estate – Backed ICO)
 
ขณะที่นายกานต์ อรรถธรรมสุนทร กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Securities กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 บริษัทยังมุ่งเน้นขยายฐานลูกค้า การพัฒนาระบบบริหารความเสี่ยงให้เหมาะสมกับความผันผวนของตลาดมากยิ่งขึ้น เพื่อปรับโครงสร้างรายได้ให้มีความแข็งแกร่งรองรับการชะลอตัวของปริมาณการซื้อขายที่ซบเซา
 
ทั้งนี้ บริษัทยังมุ่งพัฒนาการให้บริการผ่านช่องทางดิจิทัล โดยเฉพาะการเชื่อมโยงระบบกับ Mobile Banking Application “LHB You” ของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพื่อขยายฐานลูกค้ารายย่อย อีกทั้งเป็นการเพิ่มช่องทางการให้บริการผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลให้ลูกค้าได้รับความสะดวก และรวดเร็ว รวมทั้ง บริษัทให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างยั่งยืนการดำเนินธุรกิจอย่างมีสำนึกและมีส่วนช่วยรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และตามหลักธรรมาภิบาลที่ดี