Phones
หน้าแรก
Stock
เศรษฐกิจมหภาค
แบงก์ - Finance
อสังหาริมทรัพย์ - Marketing
ประกัน - ท่องเที่ยว
Variety
สกู้ป พิเศษ
SET
SPREME เร่งปิดดีล M&A ดันผลงานโต Double Digit
MAI
FLOYD สอยงานใหม่เข้าพอร์ต 115 ล. ตั้งเป้ารายได้โต50%
IPO
CFARM เตรียมขาย IPO 149 ล้านหุ้น ระดมทุนเข้า mai
บล./บลจ
SCB CIO แนะเลือกลงทุนตลาดหุ้นพื้นฐานดีช่วงปรับฐาน
เศรษฐกิจ-การเงิน-การคลัง
SCB EIC เดาใจ กนง. ลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง สู่ระดับ 2.00%
การค้า - พาณิชย์
TikTok ผนึก SME D Bank เสริมทักษะดิจิทัล – แหล่งเงินทุนแก่เอสเอ็มอี
พลังงาน - อุตสาหกรรม
TGE ดันผลงานปี 67 โต 10% พร้อมลุยประมูลงานใหม่อีก 30 MW
คมนาคม - โลจิสติกส์
SJWD เซ็นสัญญารับงาน ‘กลุ่มแอสเซทไวส์’
แบงก์ - นอนแบงก์
TTB พัฒนาโซลูชันทางการเงินตอบโจทย์พันธมิตรองค์กร
ไฟแนนซ์ - ลิสซิ่ง
TIDLOR อนุมัติจ่ายปันผลเป็นหุ้น-เงินสด ขึ้น XD 24 เม.ย. 67
SMEs - Startup
BTG จัดตั้ง “Betagro Ventures” ลุยลงทุน “FoodTech & AgriTech”
ประกันภัย - ประกันชีวิต
MTL Click คว้ารางวัลสุดยอดสินค้าและบริการแห่งปี
รถยนต์
GPI โชว์ยอดจองรถงาน “มอเตอร์โชว์” 58,611 คัน
ท่องเที่ยว
ttb analytics ประเมินเงินสะพัดกว่า 4.2 หมื่นล.ในช่วงสงกรานต์ปี 67
อสังหาริมทรัพย์
A5 บอร์ดไฟเขียวออกวอร์แรนต์ A5-W4
การตลาด
M-150 Sparkling ผนึกกำลัง RoV เขย่าวงการอีสปอร์ต
CSR
BTG จัดตั้ง “Betagro Ventures” ลุยลงทุน “FoodTech & AgriTech”
Information
ตามรอยเจ้าฟ้านักอนุรักษ์ คืนความสมดุลให้กับระบบนิเวศชายทะเล
Gossip
Aeroflex โชว์สินค้านวัตกรรมในงานสถาปนิก’67
Entertainment
กองทุนพัฒนาไฟฟ้า สานต่อ โครงการ “เด็กตื่นไฟ ปี 3”
สกุ๊ป พิเศษ
NER เดินหน้าโตแกร่ง ควบคู่เน้น ESG
GULF ประกาศ Core Profit ไตรมาส 2/66 เท่ากับ 3,556 ล้านบาท
2023-08-11 09:25:27
47
sharer
นิวส์ คอนเน็คท์ - GULF ประกาศ Core Profit ไตรมาส 2/66 เท่ากับ 3,556 ล้านบาท โตขึ้น 15% จากการ COD ของโรงไฟฟ้า GPD หน่วยที่ 1 และกำไรจาก INTUCH ที่เพิ่มขึ้น
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2566 บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF แจ้งว่า บริษัทฯ รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/66 โดยมีรายได้รวม (Total Revenue) อยู่ที่ 35,263 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% จาก 24,553 ล้านบาท ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรจากการดำเนินงาน (Core Profit) สำหรับไตรมาส 2/66 เท่ากับ 3,556 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จาก 3,081 ล้านบาท ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
การเติบโตดังกล่าวมีสาเหตุหลักมาจากการรับรู้ผลการดำเนินงานของโครงการกัลฟ์ ปลวกแดง (GPD) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ IPP ที่มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 2,650 MW ภายใต้กลุ่ม IPD โดยหน่วยที่ 1 กำลังการผลิตติดตั้ง 662.5 MW ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ไปเมื่อวันที่ 31 มี.ค. 66 โดยรับรู้ Core Profit จำนวน 223 ล้านบาทในไตรมาส 2/66 ประกอบกับ รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ SPP 12 โครงการภายใต้กลุ่ม GMP ที่มีปริมาณการขายไฟฟ้าให้ กฟผ. เพิ่มขึ้น โดยมี Load Factor เฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 78% ในไตรมาส 2/65 เป็น 80% ในไตรมาส 2 ปีนี้ และยังมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้นจากการขายไฟฟ้าให้แก่กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม เนื่องจากราคาค่าก๊าซเฉลี่ยที่ปรับตัวลดลง โดยราคาค่าก๊าซธรรมชาติเฉลี่ยลดลงจาก 449.15 บาท/ล้านบีทียูในไตรมาส 2/65 เป็น 406.44 บาท/ล้านบีทียูในไตรมาสนี้ หรือลดลง 10% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่ค่า Ft เฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 0.17 บาท/kWh ในไตรมาส 2/65 เป็น 1.12 บาท/kWh ในไตรมาสนี้
นอกจากนี้ GULF ได้เริ่มรับรู้รายได้และกำไรของกลุ่ม THCOM เข้ามาในงบการเงินรวมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 66 โดยในไตรมาส 2/2566 GULF รับรู้รายได้จำนวน 639 ล้านบาท และกำไรจำนวน 116 ล้านบาท จากกลุ่ม THCOM
สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) ภายใต้ GULF1 นั้น ได้เปิดดำเนินการแล้ว 88 MW ณ สิ้นไตรมาส 2/66 เมื่อเทียบกับ 4 MW ในไตรมาส 2/65 ส่งผลให้รับรู้ Core Profit จำนวน 48 ล้านบาทในไตรมาสนี้
อีกทั้ง ในไตรมาส 2/66 GULF รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการดำเนินงาน (ส่วนแบ่งกำไร Core Profit) จากบริษัทในเครือทั้งสิ้น 2,153 ล้านบาท โตขึ้น 6% จาก 2,035 ล้านบาท เทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน โดยส่วนใหญ่มาจากส่วนแบ่งกำไร Core Profit จาก INTUCH จำนวน 1,352 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของ AIS ประกอบกับรับรู้ส่วนแบ่งกำไร Core Profit ของกลุ่ม GJP จำนวน 579 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากโครงการโรงไฟฟ้า SPP 7 โครงการ ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นจากการขายไฟฟ้าให้แก่กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม เนื่องจากราคาก๊าซธรรมชาติเฉลี่ยที่ลดลงและค่า Ft เฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ในไตรมาส 2/66 GULF ยังรับรู้ส่วนแบ่งกำไร Core Profit จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม 3 โครงการภายใต้กลุ่ม Gulf Gunkul Corporation จำนวน 148 ล้านบาท และส่วนแบ่งกำไร Core Profit จากโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ DIPWP ในประเทศโอมาน จำนวน 139 ล้านบาท โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าวได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้นจาก 52 MW ในไตรมาส 2/65 เป็นครบทั้งสิ้น 326 MW ในไตรมาส 2/66 รวมถึงรับรู้ส่วนแบ่งกำไร Core Profit จากโครงการบริหารจัดการท่าเทียบเรือสาธารณะเพื่อขนถ่ายสินค้าเหลว Thai Tank Terminal จำนวน 59 ล้านบาทในไตรมาสนี้
อย่างไรก็ดี ปัจจัยบวกดังกล่าวถูกชดเชยบางส่วนจากส่วนแบ่งกำไรที่ลดลงจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งทะเล Borkum Riffgrund 2 (BKR2) ที่ประเทศเยอรมนี ตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ลดลง ซึ่ง GULF ได้จำหน่ายหุ้นในสัดส่วน 25.01% ให้ Keppel Group ในเดือน ธ.ค. 65 นอกจากนี้ ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการ PTTNGD ลดลง เนื่องจากราคาน้ำมันเตาลดลงในอัตราที่สูงกว่าราคาค่าก๊าซธรรมชาติ ซึ่งรายได้ของโครงการดังกล่าวจะผูกกับราคาน้ำมันเตา ในขณะที่ต้นทุนจะขึ้นอยู่กับราคาค่าก๊าซธรรมชาติ ประกอบกับส่วนขาดทุนจากโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Jackson Generation ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากราคาก๊าซธรรมชาติ Henry Hub ที่ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 1.99 ดอลลาร์สหรัฐ/ล้านบีทียู ในไตรมาสนี้
ทั้งนี้ GULF มีกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในไตรมาส 2/66 เท่ากับ 8,620 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับ 7,174 ล้านบาทในไตรมาส 2/65 และกำไรสุทธิ (Net Profit) ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ในไตรมาส 2/66 (รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน) เท่ากับ 2,885 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 88% จาก 1,531 ล้านบาทในไตรมาส 2/65 ซึ่งเป็นผลจากการอ่อนค่าของเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐจาก 34.26 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นไตรมาส 1/66 เป็น 35.75 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นไตรมาส 2/66 อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนดังกล่าว เป็นเพียงการบันทึกรายการทางบัญชี และไม่มีผลกระทบต่อกระแสเงินสดและผลประกอบการของ GULF แต่อย่างใด
ณ วันที่ 30 มิ.ย. 66 GULF มีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Net Interest-Bearing Debt to Equity) อยู่ที่ 1.76 เท่า เพิ่มขึ้นจาก 1.56 เท่า ณ วันที่ 31 ธ.ค. 65 โดยการเพิ่มขึ้นดังกล่าวเป็นผลมาจากจำนวนหนี้สินระยะยาวที่เพิ่มขึ้นจากการออกและจำหน่ายหุ้นกู้จำนวน 20,000 ล้านบาท ในเดือน มี.ค.66 ที่ผ่านมา ประกอบกับมีการเบิกเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินเพื่อลงทุนในโครงการ GPD
นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน GULF เปิดเผยว่า ภาพรวมผลประกอบการปี 66 คาดว่ารายได้รวมจะเติบโตขึ้นประมาณ 50% ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ จากการเปิดดำเนินการของโครงการของ GULF ในช่วงครึ่งหลังของปี 66 ซึ่งยังคงดำเนินไปตามแผน
โดยโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Mekong ที่ประเทศเวียดนาม ได้เปิดดำเนินการครบทั้งสิ้น 128 MW เป็นที่เรียบร้อยเมื่อเดือน ก.ค. 66 อีกทั้งโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ GPD หน่วยที่ 2 ซึ่งมีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวม 662.5 MW มีกำหนดเปิดดำเนินการในวันที่ 1 ต.ค. 66 นี้ และโครงการ Solar Rooftop ภายใต้ GULF1 มีกำหนดจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เพิ่มอีก 40-50 MW ภายในปีนี้ รวมเป็น 130-140 MW นอกจากนี้ แนวโน้มค่าก๊าซธรรมชาติที่ลดลง จะส่งผลให้กำไรของกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP ดีขึ้น ในส่วนของธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทยภายใต้ Gulf Binance นั้น GULF ได้รับใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและธุรกิจนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นที่เรียบร้อย และมีกำหนดเปิดให้บริการภายในสิ้นปีนี้
SPREME เร่งปิดดีล M&A ดันผลงานโต Double Digit
GUNKUL เซ็น PPA กับ กฟผ. เล็งขายไฟฟ้าเพิ่ม 31 MW
SAV ไตรมาส 1 เที่ยวบินกัมพูชาโตกว่า 20%
EXIM BANK สินเชื่อไตรมาสแรกโต 7% หนุนกำไรแตะ 132 ล้าน - LEO ทำคลอดบ.ร่วมทุน หวังปั๊มรายได้200ล.
SPREME เทรดวันแรกเหนือจอง 31.53%
APCO ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ป้องกันมะเร็ง-สมองเสื่อม