Phones





NER อนุมัติปันผลระหว่างกาล 0.05 บ./หุ้น ย้ำเป้ารายได้ปีนี้ยอดขาย 5 แสนตัน

2023-08-11 17:31:15 234



นิวส์ คอนน็คท์ - NER เผย มติบอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับผลดำเนินงานงวด 6 เดือน 66 ในอัตรา 0.05 บาท/หุ้น ด้านงบการเงินไตรมาส 2/66 กำไรสุทธิ 457.21 ล้านบาท และงบการเงิน 6 เดือน มีกำไรสุทธิ 771.59 ล้านบาท ลุยต่อครึ่งปีหลัง มุ่งเน้นการขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น มั่นใจปี 66 ยอดขาย 500,000 ตันตามเป้าหมาย

เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2566 นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ และกลุ่มผู้ค้าคนกลาง ทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยว่า มติคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 66 ได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับผลการดำเนินงานงวดวันที่ 1 ม.ค. ถึง 30 มิ.ย. 66 เป็นเงินสดในอัตรา 0.05 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงิน 92.39 ล้านบาท โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD (วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล) วันที่ 25 ส.ค. 66 วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 28 ส.ค. 66 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 8 ก.ย. 66

สำหรับผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 2/66 (งวด 3 เดือน) สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. 66 บริษัทมีปริมาณขายรวม 129,479 ตัน เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้น 41,080 ตัน หรือเพิ่มขึ้น 46.47% คิดเป็นรายได้จากการขายรวม 6,557.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,285.36 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 24.38% และมีกำไรสุทธิ เท่ากับ 457.21 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 6.97% กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 75.01 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 19.63% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ด้านผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 66 เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน มีปริมาณขาย 257,052 ตัน เพิ่มขึ้น 72,304 ตัน หรือเพิ่มขึ้น 39.14% คิดเป็นรายได้จากการขายรวม 12,811.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,947.15 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 17.92% และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 771.59 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 6.02% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 65 ที่มีกำไรสุทธิ 851.09 ล้านบาท กำไรสุทธิลดลง 79.50 ล้านบาท ตามสถานการณ์ราคายางพาราในช่วงครึ่งปีแรก

นายชูวิทย์กล่าวเพิ่มเติมถึงเป้าหมายการเติบโตในครึ่งปีหลัง ว่า บริษัทยังมุ่งเน้นการขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันบริษัทมีการขายสินค้าให้กับลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกหลายรายทั้งในประเทศและต่างประเทศโดยฉพาะในจีน และสิงคโปร์

สำหรับภาพรวมปี 66 บริษัทตั้งเป้าปริมาณขายสินค้าที่ 500,000 ตัน จากกำลังการผลิตทั้งหมด 515,600 ตัน เติบโตเมื่อเทียบกับปริมาณขายปี 65 ที่ 446,090 ตัน โดยการเติบโตมาจากการขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าต่างๆ และความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังคงมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานภายในบริษัทฯ มีการวางแผนการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ควบคู่ไปกับการลดต้นทุนการผลิตและต้นทุนในการดำเนินงาน เช่น การปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักรเพื่อรองรับการผลิตที่มากขึ้นในอนาคต ตลอดจนการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาโรงงานเพิ่มเติม โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีพลังงานหมุนเวียน คือ พลังงานจากแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) และ ไบโอแก๊สที่ผลิตและใช้งานเองภายในบริษัท รวมกำลังการผลิต 8 เมกกะวัตต์ ซึ่งช่วยลดต้นทุนค่าพลังงานของบริษัทได้เป็นอย่างดี

ในปี 66 นี้ บริษัทฯ ยังดำเนินโครงการด้านความยั่งยืนหลายโครงการอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการห่วงโซ่อุปทานเพื่อความยั่งยืนปี 2 โครงการตลาดสีเขียว โครงการห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ โครงการ NER ร่วมใจลดขยะพลาสติก โครงการตรวจสุขภาพกลุ่มเปราะบาง โครงการส่งสุขความรู้สู่ดวงใจพนักงานผ่านคาราวานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นต้น และจะดำเนินโครงการเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคมมากยิ่งขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปพร้อมกับการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ