Phones





IHL เปิดแผนธุรกิจครึ่งปีหลังลุยธุรกิจใหม่เต็มสูบ

2023-08-23 12:38:16 108




นิวส์ คอนเน็คท์ - IHL กางแผนธุรกิจครึ่งปีหลังลุยธุรกิจใหม่เต็มสูบ ทั้งขนมขบเคี้ยวสุนัข-ฟอกหนังรองเท้า-ผลิตหนังเฟอร์นิเจอร์ จ่อมีลูกค้าเพิ่ม ส่วนธุรกิจผลิตเบาะหนังรถยนต์ ออเดอร์ไหลเข้าต่อเนื่อง ฟากบิ๊กบอส "องอาจ ดำรงสกุลวงษ์" ระบุ เดินหน้าขยายฐานลูกค้าเพิ่ม คุมต้นทุนค่าใช้จ่าย หวังดันผลงานปีนี้เติบโตตามเป้าหมาย

เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2566 นายองอาจ ดำรงสกุลวงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) หรือ IHL เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2566 บริษัทฯ ปรับกลยุทธ์เดินหน้าขยายฐานลูกค้าในกลุ่มธุรกิจใหม่ ทั้ง ธุรกิจขนมขบเคี้ยวสุนัข “MOMO & FRIENDS” ธุรกิจฟอกหนังรองเท้า ธุรกิจผลิตหนังเฟอร์นิเจอร์ เพิ่มเติม

ขณะที่ ธุรกิจผลิตเบาะหนังรถยนต์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักยังมีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากค่ายรถยนต์พันธมิตรรายใหญ่ ทั้ง บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด, บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จํากัด และบริษัทฯ สามารถเดินเครื่องผลิตได้เต็มกำลังการผลิต สอดคล้องกับยอดสั่งซื้อที่มีเข้ามาต่อเนื่อง 

“แนวโน้มผลงานในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ น่าจะมีทิศทางที่ดี เนื่องจากการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ เศรษฐกิจฟื้นตัวชัดเจน ประกอบกับบริษัทฯ มีการปรับกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้าในกลุ่มธุรกิจใหม่เพิ่ม รวมทั้ง มีแผนในการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปบนหลังคาโรงงานเพิ่มเติม เพื่อควบคุมต้นทุนในการผลิต จึงมั่นใจว่า ปัจจัยเหล่านี้ จะสามารถช่วยสนับสนุนให้ผลงานในปีนี้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้” นายองอาจกล่าว

ด้านนายวศิน ดำรงสกุลวงษ์ กรรมการ และผู้จัดการทั่วไป บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) (IHL) กล่าวว่า ล่าสุด บริษัท อินเตอร์กรีน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้เริ่มส่งออกโปรตีนชนิดผง ไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 20 ตัน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะทยอยจัดส่งให้ครบตามสัญญา

สำหรับธุรกิจขนมขบเคี้ยวสุนัข ภายใต้แบรนด์ “MOMO & FRIENDS” มียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการร่วมออกบูธในกิจกรรมต่างๆ ซึ่งปัจจุบัน มีวางจำหน่ายใน ท็อปส์ มาร์เก็ต (Tops market) ทุกสาขารวมทั้งผ่านช่องทางออนไลน์ได้แก่

www.facebook.com/MomoFriends.official/,instagram.com/momoandfriendsth?igshid=YmMyMTA2M2Y=

LINE ID :lin.ee/N33Sarq

SHOPEEและLAZADA

นอกจากนี้ อยู่ระหว่างการเจรจาทำสัญญาทางธุรกิจเพื่อนำผลิตภัณฑ์เข้าวางจำหน่ายในห้างโมเดิร์นเทรดเพิ่มเติม คาดว่า จะเห็นความชัดเจน 1-2 แห่ง ในปีนี้ พร้อมกันนี้ อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรในการรับจ้างผลิต (OEM) ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เพิ่มเติมจากที่ส่งออกไปยังประเทศเกาหลี และมีการส่งออกในรูปแบบวัตถุดิบหนังวัวไปยังประเทศเวียดนาม และกัมพูชา 

นอกจากนี้ อยู่ระหว่างการเจรจาทำสัญญาทางธุรกิจเพื่อนำผลิตภัณฑ์เข้าวางจำหน่ายในห้างโมเดิร์นเทรดเพิ่มเติม คาดว่า จะเห็นความชัดเจน 1-2 แห่ง ในปีนี้ พร้อมกันนี้ อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรในการรับจ้างผลิต (OEM) ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เพิ่มเติมจากที่ส่งออกไปยังประเทศเกาหลี และมีการส่งออกในรูปแบบวัตถุดิบหนังวัวไปยังประเทศเวียดนาม และกัมพูชา 

ส่วนธุรกิจฟอกหนังรองเท้า ปัจจุบันมีลูกค้า 5 ราย เป็นลูกค้าจากฝั่งทวีปอเมริกาและยุโรป โดยมีสัดส่วนในการฟอกหนังรองเท้าที่เพิ่มขึ้น สามารถรับรู้รายได้ทันที สะท้อนถึงคุณภาพของสินค้าและบริการที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นในการสั่งสินค้าเพิ่มมากขึ้น

ในส่วนของธุรกิจอาหารเสริมแบรนด์ “Chojen” (โชเจน) คอลลาเจน จากหนังวัว ของบริษัท อินเตอร์กรีน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย มีวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ผ่านช่องทางออนไลน์ได้แก่

https://www.facebook.com/ChojenOfficial

G:https://www.instagram.com/chojen_official/

add line:@chojen

shopee:https://shopee.co.th/chojen_collagen?categoryId=100001&entryPoint=ShopByPDP&itemId=23636945733&upstream=search

tiktok:https://www.tiktok.com/@chojen_collagen?is_from_webapp=1&sender_device=pc

โดยทุกช่องทางนั้นมียอดขายเข้ามาอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้ง มีการจำหน่ายในรูปแบบวัตถุดิบให้กับผู้ผลิตรายอื่นๆ 

ขณะเดียวกัน ธุรกิจผลิตหนังเฟอร์นิเจอร์ ยังมีออเดอร์การรับจ้างผลิต ให้กับลูกค้ารายใหญ่และรายย่อย รวมถึง การผลิตภัณฑ์โซฟา ภายใต้แบรนด์ “ALEX” ซึ่งเป็นโซฟา ที่ผลิตจากหนังวัวคุณภาพพรีเมี่ยม ปัจจุบันมีโชว์รูมอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล บางนา ยังมีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2566 มีรายได้รวม 494.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.56% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้รวม 435.28 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 4.16 ล้านบาท ขณะที่ ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,006.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.49% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้รวม 911.19 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 17.83 ล้านบาท