Phones





GLมั่นใจชนะคดีฟ้องBank JTrustอินโดฯ

2019-12-04 18:06:44 669




นิวส์ คอนเน็คท์ - "กรุ๊ปลีส" มั่นใจชนะคดีที่ยื่นฟ้องกลับ PT Bank JTrust Indonesia หลังศาลสั่งยกคำร้องที่คู่กรณีฟ้องเรียกค่าเสียหาย เพราะไม่ได้ทำผิดสัญญาการจัดการสินเชื่อ มั่นใจสินเชื่อ GL สิ้นปีนี้ทำได้ 6,500 ล้านบาท หรือเติบโต 20% ปี 63 ดันแตะ 7,800 ล้านบาท


เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2562 นายทัตซึยะ โคโนชิตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL เปิดเผยว่า
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2562 ศาลสูงแห่งกรุงจากาตาร์ ได้พิจารณาพิพากษายกคำฟ้องของ PT Bank JTrust Indonesia จากที่เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2561 PT Bank JTrust Indonesia ได้ยื่นฟ้อง GLFI ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของกรุ๊ปลีส เรียกร้องเงินจำนวน 230,000,000 บาท ในข้อหาผิดสัญญาการจัดการสินเชื่อร่วมทางการเงิน และต่อมาเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2562 ศาลพิพากษายกฟ้อง และต่อมา PT Bank JTrust Indonesia ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลสูงแห่งกรุงจากาตาร์


ทั้งนี้ หลังจากศาลอุทธรณ์ได้ยกคำร้องแล้ว ทาง PT Bank JTrust Indonesia มีเวลา 14 วันที่จะยื่นอุทธรณ์อีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทฯ มั่นใจว่าจะชนะในคดีนี้ เนื่องจากไม่ได้เป็นผู้ผิดสัญญาการจัดการสินเชื่อร่วมทางการเงิน ตามที่ผู้ฟ้องยื่นฟ้อง


คดีนี้ สืบเนื่องจาก GLFI ร่วมมือกับทาง PT Bank JTrust Indonesia ในการปล่อยสินเชื่อในการซื้อรถแทรคเตอร์และรถจักรยานยนต์ให้กับลูกค้า โดยที่ GLFI เป็นผู้ลงทุนเองทั้งในเรื่องของ Know-How ระบบไอที และการบริหารจัดการทั้งหมด และเมื่อมีการทำสัญญากับลูกค้าแล้ว ทาง GLFI จะให้สินเชื่อทั้ง 100% แก่ลูกค้า จากนั้นทาง GLFI จะยื่นไปยัง PT Bank JTrust Indonesia เพื่อขอสินเชื่อ โดยที่ทาง GLFI จะได้ 5% คืน และทาง PT Bank JTrust Indonesia จะเป็นผู้ออกเอง 95% ส่วนผลตอบแทนที่เกิดขึ้น 40% จากเงินต้นที่อนุมัติสินเชื่อไปนั้น 28% จะเป็นของ GLFI และอีก 12% เป็นของ PT Bank JTrust Indonesia


แต่กลับพบว่า ทาง PT Bank JTrust Indonesia ทำผิดสัญญา โดยเป็นผู้ที่เข้าไปหาและทำสัญญากับลูกค้าเอง ทั้งที่ในสัญญาระบุไว้แล้วว่า ทาง GLFI จะเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด และยื่นเรื่องเพื่อขอสินเชื่อไปทาง PT Bank JTrust Indonesia อีกทั้ง PT Bank JTrust Indonesia ไประบุกับลูกค้าว่าทาง GLFI ล้มละลายแล้ว ทั้งที่ไม่เป็นความจริง เนื่องจากบริษัทยังประกอบธุรกิจตามปกติ และเมื่อศาลสั่งยกคำฟ้อง บริษัทฯ ก็เห็นว่า กรณีนี้ทำให้บริษัทได้ได้รับความเสียหาย และเพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ ทาง GLFI จึงได้ยื่นฟ้อง PT Bank JTrust Indonesia เป็นคดีแพ่ง ต่อศาลแขวงจาการ์ตากลาง และเรียกค่าเสียหายประมาณ 45 ล้านบาท


"เรามั่นใจว่า คดีนี้เราชนะแน่นอน เพราะไม่ทำทำผิดสัญาตามที่เขาฟ้อง แต่ทาง PT Bank JTrust Indonesia เอง ที่ทำผิดสัญา โดยที่ไปติดต่อกับลูกค้าเอง ไปทำสัญญาเอง และบอกว่า เราไปกู้เงินเขา ทั้งที่เราเป็นคนบริหารจัดการเองทั้งหมด ตั้งแต่หาลูกค้า ทำสัญญา ออกสินเชื่อให้ลูกค้าก่อน แล้วยื่นเรื่องไปขอสินเชื่อจากทางแบงก์อีกที และบริษัทฯ ก็ควรจะได้รับเงิน 5% ตามที่ตกลงกันไว้ในสัญญาที่ทำระหว่างกัน" นายทัตซึยะ โคโนชิตะ กล่าว


สำหรับแนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อของ GL นั้น จากในอดีตตั้งแต่ปี 2558-2561 เติบโตเฉลี่ย 275 และสิ้นปี 2562 นี้ คาดว่าจะเติบโต 20% หรือทำได้ 6,500 ล้านบาท และจะขึ้นไปแตะ 7,800 ล้านบาท หรือเติบโต 20% ในปี 2563 โดยสัดส่วนสินเชื่อ ณ สิ้นไตรมาส 3/62 มาจากในประเทศไทย 68% ลาว 4% พม่า 11% อินโดนีเซีย 2% และ กัมพูชา 15%