Phones





NER ย้ำเป้าปี 66 ยอดขาย 5 แสนตัน

2023-09-22 20:47:09 673



NER ย้ำเป้าปี 66 ยอดขาย 5 แสนตัน (สกู๊ปพิเศษ)
รับเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับผลดำเนินงานงวด 1 ม.ค. - 30 มิ.ย. 66 ในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท กันไปแล้ว เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 66 ที่ผ่านมา สำหรับผู้ถือหุ้น บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ และกลุ่มผู้ค้าคนกลาง ทั้งในและต่างประเทศ

โดยผลดำเนินงานสำหรับไตรมาส 2/66 NER มีปริมาณขายรวม 129,479 ตัน เทียบงวดเดียวกันปีก่อน เพิ่มขึ้น 41,080 ตัน หรือ 46.47% คิดเป็นรายได้จากการขายรวม 6,557.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,285.36 ล้านบาท หรือ 24.38% และมีกำไรสุทธิ 457.21 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 6.97% กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 75.01 ล้านบาท หรือ 19.63% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และงวด 6 เดือนแรกปี 66 มีปริมาณขาย 257,052 ตัน เพิ่มขึ้น 72,304 ตัน หรือ 39.14% คิดเป็นรายได้จากการขายรวม 12,811.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,947.15 ล้านบาท หรือ 17.92% และมีกำไรสุทธิ 771.59 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 6.02% 

ย้ำเป้าปี 66 ยอดขาย 5 แสนตัน

นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NER เผยถึงเป้าหมายการเติบโตในครึ่งหลังของปี 66 ว่า บริษัทยังมุ่งเน้นการขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีการขายสินค้าให้กับลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกหลายราย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยฉพาะในจีน และสิงคโปร์ ขณะที่ภาพรวมปี 66 บริษัทตั้งเป้าปริมาณขายสินค้าที่ 500,000 ตัน จากกำลังการผลิตทั้งหมด 515,600 ตัน เติบโตเมื่อเทียบกับปริมาณขายปี 65 ที่ 446,090 ตัน 

สำหรับสถานการณ์ราคายางพารา เริ่มมีทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้นตามความต้องการของตลาด (Demand) ภาวะฟื้นตัวของอุตสาหกรรม ทั้งตลาดในและต่างประเทศ อาทิ กลุ่มยานยนต์ (รวมยานยนต์ไฟฟ้าตามแผนสนับสนุนของภาครัฐ) การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่มีแนวโน้มขยายตัว หนุนความต้องการใช้ยางในภาคก่อสร้าง ซึ่งบริษัทได้รับคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทมีการขายให้กับลูกค้าไปถึงไตรมาสที่ 1/67 แล้ว จากอานิสงส์ของคำสั่งซื้อจากประเทศจีนที่ยังมีความต้องการสูง และราคายางที่ปรับตัวดีขึ้น

พัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนในทุกมิติ 

ขณะที่ นางสาวเกศนรี จองโชติศิริกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด ควบคุมคุณภาพ และพัฒนาความยั่งยืน NER กล่าวว่า บริษัทฯ มีการวางแผนการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ควบคู่ไปกับการลดต้นทุนการผลิตและต้นทุนในการดำเนินงาน เช่น การปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักรเพื่อรองรับการผลิตที่มากขึ้นในอนาคต ตลอดจนการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาโรงงานเพิ่มเติม โดยปัจจุบันบริษัทฯมีพลังงานหมุนเวียน คือ พลังงานจากแสงอาทิตย์(โซลาร์เซลล์)และไบโอแก๊สที่ผลิตเพื่อใช้งานเองภายในบริษัท รวมกำลังการผลิต 8 เมกกะวัตต์ ซึ่งช่วยลดต้นทุนค่าพลังงานของบริษัทได้เป็นอย่างดี
ในปี 2566 นี้ บริษัทฯ ยังดำเนินโครงการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งมิติด้านสิ่งแวดล้อม มิติด้านสังคม และมิติด้านบรรษัทภิบาล อาทิ โครงการห่วงโซ่อุปทานเพื่อความยั่งยืน โครงการตลาดสีเขียว โครงการห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ โครงการ NER ร่วมใจลดขยะพลาสติก โครงการตรวจสุขภาพกลุ่มเปราะบาง โครงการส่งสุขความรู้สู่ดวงใจพนักงานผ่านคาราวานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นต้น และจะดำเนินโครงการเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคมมากยิ่งขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปพร้อมกับการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ

คว้ารางวัล CSR-DIW Award 2023 

และล่าสุด NER ได้รับรางวัล CSR-DIW Award 2023 สาขา CSR-DIW Continuous Award ในโครงการส่งเสริมโรงงานอุตสาหกรรมให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชนเพื่อเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (CSR-DIW to achieve SDGs) ประจำปี 2566 รับมอบโล่รางวัลและเกียรติบัตร จากนายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม
สำหรับรางวัล CSR-DIW Continuous Award สะท้อนความมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม คำนึงถึงความยั่งยืน ปฏิบัติตามมาตรฐานความรับผิดชอบของผู้ประกอบอุตสาหกรรม ส่งเสริมให้พนักงานมีส่วนร่วมดูแลชุมชน ตลอดจนการปฏิบัติตามมาตรฐานความรับผิดชอบของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่มีต่อสังคม ดำเนินธุรกิจอยู่ร่วมกับชุมชนโดยรอบได้อย่างยั่งยืน พัฒนาสู่ความเป็นอุตสาหกรรมสีเขียว และสอดคล้องตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ผ่านกิจกรรมความรับผิดชอบสังคมในด้านต่าง ๆ 

เซียนหุ้นคงคำแนะนำ "ซื้อ"

การเติบโตอย่างแข็งแกร่งของ NER และการจ่ายผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหุ้น ส่งผลให้โบรกเกอร์หลายสำนักเทเสียงเชียร์"ซื้อ" กันมาอย่างต่อเนื่อง โดย บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) คงคำแนะนำ "ซื้อ" พร้อมกับราคาเป้าหมาย 6.20 บาท ฟาก บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ปรับคําแนะนําขึ้นเป็น "ซื้อ" โดยปรับกําไรปี 66 เพิ่มเป็น 1,782 ล้านบาท สะท้อนจากยอดขายและกำไรช่วงไตรมาส 2/66 ที่แข็งแกร่ง 


ขณะที่ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) วิเคราะห์ว่า NER ในไตรมาส 2/66 ที่กำไรเติบโต 14.3% จากช่วงเดียกันของปีก่อน และโต 67.7% จากไตรมาสก่อน จากยอดขายรวม และ gross margin ที่ฟื้นตัวดีขึ้น จากยอดขายต่างประเทศที่มากขึ้นและอํานาจต่อรองของบริษัทที่สูงขึ้นตามราคาขายยางช่วงปลายปี 66 ทั้งนี้ ประเมินกําไรระยะสั้นในช่วงไตรมาส 3/66 อาจยังไม่เด่นจากราคาขายยางโลกที่ยังทรงตัวในระดับตํ่า กดดันความสามารถต่อรองของบริษัท อย่างไรก็ตาม ยังคงคําแนะนํา "ซื้อ" ภายใต้ประมาณการปัจจุบันปี 66 และอิง Forward PE ปี 66 ที่ 8 เท่า ได้ราคาเป้าหมายที่ 5.70 บาท ยังมี Upside พร้อมเงินปันผลระดับ 6-7% ต่อปี ราคาปัจจุบันยังเป็นจุด "ซื้อสะสม" ที่ดี