เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2566 นางสาวดวงพร พรหมอ่อน กรรมการผู้จัดการ บริษัท จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากผลสำรวจอัตราเงินเดือนทั่วเอเชีย โดย JobsDB by SEEK ที่ผ่านมา พบว่าหลังจากเกิดโรคระบาดอย่างไวรัสโควิด 19 ส่งผลต่อรูปแบบของการทำงานที่เปลี่ยนไปจากเดิมค่อนข้างมาก จากที่ต้องเดินทางเข้าออฟฟิศ เพื่อทำงานตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ สู่การปรับตัวทำงานที่บ้านพร้อมสลับเข้าบริษัทอย่าง Hybrid Work ที่สามารถสร้างความสมดุลหรือ Work life Balance ให้ในชีวิตคนทำงานได้ ซึ่งแนวทางนี้ก็เติบโตขึ้นในประเทศไทยเช่นกัน โดยปัจจุบันผู้สมัครงานรุ่นใหม่เริ่มนำแนวคิด “Hybrid Work” มาเป็นปัจจัยในการพิจารณางานที่ต้องการ มากกว่าการพิจารณาเรื่องค่าตอบแทนที่สูงขึ้นเป็นหลักเท่านั้น และแนวคิดนี้ก็กลายเป็นปัจจัยอันดับต้นๆ ในการพิจารณาการหางานในปัจจุบันของคนทั่วโลกเช่นกัน
ทั้งนี้จากการเกิดโรคระบาดอย่างไวรัสโควิด 19 ที่ส่งผลกระทบต่อทุกอุตสาหกรรม อีกทั้งยังสร้างความเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตคนทั่วโลกจนปรับตัวกันแทบไม่ทัน รวมไปถึงยังส่งผลต่อรูปแบบการทำงานที่ปรับมาทำงานที่บ้านหรือ Work from Home เพื่อลดความเสี่ยงของโรคระบาดลง และยังช่วยในเรื่องของลดค่าใช้จ่าย และเวลาในการเดินทางลง แต่ในขณะเดียวกันการ Work From Home กลับส่งผลให้บางคนต้องทำงานหนักเพิ่มมากขึ้น ทำให้แยกชีวิตส่วนตัวกับงานไม่ได้ ขาดการทำงานเป็นทีม ดังนั้นเมื่อผ่านสถานการณ์โควิด 19 มาแล้ว แนวคิดการผสมผสานระหว่างการเดินทางมาทำที่ออฟฟิศสลับกับการทำงานอยู่ที่บ้านหรือที่เรียกว่า Hybrid Work จึงเริ่มตอบโจทย์ต่อกลุ่มคนรุ่นใหม่ และส่งผลต่อการทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ด้านการทำงานแบบ Hybrid Work จะเป็นการทำงานแบบสลับวันเข้าออฟฟิศ โดยจำนวนวันที่เข้าทำงานในออฟฟิศและการทำงานจากที่บ้านจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการออกแบบของแต่ละองค์กร ซึ่งวิธีการทำงานแบบ Hybrid Work จะมีความยืดหยุ่นมากกว่าแบบเดิมๆ โดยมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในเรื่องของระบบสื่อสารต่างๆ อุปกรณ์การทำงาน เช่น Notebook เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพนักงานในการติดต่องาน ประชุม หรือจัดอบรมนั่นเอง