นิวส์ คอนเน็คท์ – PTTEP ปี 63 วางเป้ายอดขายปิโตรเลียมเพิ่ม 11% พร้อมอัดงบลงทุน 4,613 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนแผน 5 ปี มุ่งเน้นลงทุนในโครงการที่มีอยู่ตามกลยุทธ์สร้างความต่อเนื่องในการผลิตปิโตรเลียม

เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2562 นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่
บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP เปิดเผยว่า PTTEP ได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ไว้ที่ 4,613 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ เทียบเท่า 143,012 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายจ่ายลงทุน (Capital Expenditure หรือ CAPEX) จำนวน 2,647 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบเท่า 82,064 ล้านบาท และรายจ่ายดำเนินงาน (Operating Expenditure หรือ OPEX) จำนวน 1,966 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบเท่า 60,948 ล้านบาท

สำหรับแผนการลงทุน 5 ปี (2563-2567) บริษัทได้จัดสรรงบประมาณรวม 24,619 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบเท่า 716,216 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม จากแผนงานดังกล่าวส่งผลให้ PTTEP ตั้งเป้าปริมาณการขายปิโตรเลียมจากโครงการผลิตปัจจุบัน โดยมีอัตราการเติบโตของปริมาณการขายโดยเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้น (Compounding Annual Growth Rate: CAGR) ในช่วง 5 ปีประมาณร้อยละ 6 หรือ 467,000 บาร์เรลต่อวันเทียบเท่าน้ำมันดิบ

ขณะที่ปี 63 คาดว่าจะอยู่ในระดับ 388,000 บาร์เรลต่อวันเทียบเท่าน้ำมันดิบ เพิ่มขึ้น 11% เทียบกับช่วงปี 62 คาดว่าจะมีปริมาณการขายในระดับ 345,000 บาร์เรลต่อวัน

“จากงบประมาณดังกล่าว PTTEP คาดว่าในปี 2563 จะสามารถเพิ่มปริมาณการขายปิโตรเลียมได้ประมาณ 11% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปี 62 ส่วนปริมาณการขายเฉลี่ยในช่วง 5 ปีข้างหน้าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน ซึ่งทั้งหมดนี้ ถือเป็นความสำเร็จจากการดำเนินการตามกลยุทธ์ Expand ทั้งการชนะการประมูล และการเข้าซื้อกิจการในพื้นที่ยุทธศาสตร์การลงทุนในประเทศไทย ประเทศมาเลเซีย และในตะวันออกกลาง” นายพงศธร กล่าว

สำหรับแผนงานหลักที่จะดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ในปี 63 นั้น จะดำเนินการรักษาปริมาณการผลิตจากโครงการผลิตหลักที่สำคัญ ได้แก่ โครงการเอส 1 โครงการบงกช โครงการอาทิตย์ โครงการพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย และโครงการซอติก้า รวมถึงรักษาปริมาณการผลิตในโครงการใหม่ที่ได้จากการเข้าซื้อกิจการและการชนะประมูล ให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ได้แก่ โครงการมาเลเซีย โครงการภายใต้บริษัท พาร์เท็กซ์ โฮลดิ้ง บี.วี. โครงการ G1/61 (แหล่งเอราวัณ) และโครงการ G2/61 (แหล่งบงกช)

นอกจากนี้ จะเพิ่มปริมาณการผลิตในอนาคต โดยมุ่งเน้น 3 โครงการหลักที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา ได้แก่ โครงการมาเลเซีย แปลงเอช โครงการโมซัมบิก แอเรีย วัน และโครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซ ให้สามารถเริ่มการผลิตได้ตามแผน รวมถึงการเร่งพัฒนาโครงการมาเลเซีย - ซาราวัก เอสเค 410บี ซึ่งประสบความสำเร็จในการเจาะสำรวจในปีที่ผ่านมา เพื่อให้สามารถเข้าสู่ขั้นตอนการตัดสินใจการลงทุนขั้นสุดท้าย (Final Investment Decision) พร้อมเร่งกิจกรรมสำรวจเพื่อค้นหาทรัพยากรเพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว โดยการเจาะหลุมสำรวจและประเมินผลสำหรับโครงการในประเทศมาเลเซียและเมียนมา

พร้อมกันนี้ PTTEP ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อสนับสนุนกิจกรรมการสำรวจ พัฒนา และผลิตปิโตรเลียม โดยบริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ PTTEP ได้วิจัยและพัฒนาหุ่นยนต์จนสามารถให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ทั้งในและนอกอุตสาหกรรมสำรวจและผลิตปิโตรเลียม เช่น โดรนเพื่อการตรวจสอบ (Inspection Drone) โดรนแปรอักษร (Swarm Drone) และยานยนต์ใต้น้ำบังคับระยะไกล (Observation-class Remotely Operated Underwater Vehicle: OBS-ROV)