Phones





CMAN หวัง Q4/66 ปริมาณขายฟื้นตัวรับไฮซีซั่นธุรกิจปูนไลม์

2023-11-15 18:10:15 40



 
นิวส์ คอนเน็คท์ – CMAN เปิดงบไตรมาส 3/66 มีรายได้จากการขายและบริการ 769 ล้านบาท ลดลง 10% และมีกำไรสุทธิ 14 ล้านบาท ลดลง 77% จากไตรมาสก่อน รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว หวังไตรมาส 4/66 ฟื้นตัวรับไฮซีซั่นธุรกิจปูนไลม์ พร้อมเดินหน้าลุยตลาดลูกค้าต่างประเทศที่อุตสาหกรรมโตโดดเด่น
 
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 นายอดิศักดิ์ เหล่าจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคมีแมน จำกัด (มหาชน) หรือ CMAN เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการจำนวน 769 ล้านบาท ลดลง 10% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลง 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มีมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทจำนวน 14 ล้านบาท ลดลง 77% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลง 81% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
 
สำหรับผลการดำเนินงาน 9 เดือนของปี 2566 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ จำนวน 2,688 ล้านบาท ลดลง 3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท จำนวน 165 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
 
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 ที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของอุตสาหกรรมน้ำตาลในประเทศ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกทำให้ลูกค้าบางกลุ่มเลื่อนคำสั่งซื้อสินค้าออกไปเป็นช่วงไตรมาส 4 ดังนั้น ส่งผลให้ปริมาณการขายปูนไลม์ลดลง ขณะที่ราคาขายสินค้าเฉลี่ยลดลงตามราคาพลังงานในตลาดโลกที่ลดลง ประกอบกับผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ยังไม่รับรู้จำนวน 23 ล้านบาท เนื่องจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐเมื่อเทียบกับเงินดองเวียดนาม
 
นอกจากนี้ บริษัทได้ถือโอกาสหยุด 3 เตาเผาปูนไลม์ในประเทศไทยและเวียดนามตามแผนการซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องจักร เตรียมความพร้อมสำหรับการผลิตเต็มที่ในช่วง high season ที่จะเริ่มต้นขึ้นในไตรมาส 4/2566 และต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 1/2567 แม้บริษัทจะหยุดเดินเตา และปริมาณการขายลดลง แต่ด้วยประสิทธิภาพการผลิตที่สูงขึ้น ประกอบกับราคาพลังงานในตลาดโลกที่ลดลง ส่งผลให้ต้นทุนขายในไตรมาส 3 ลดลง 26.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และส่งผลให้กำไรขั้นต้นในไตรมาสนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 34.7% เมื่อเทียบกับ 29.5% ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ในส่วนของผลประกอบการงวด 9 เดือนของปีนี้ บริษัทมีกำไรขั้นต้น 32.5% เพิ่มขึ้นจาก 25.1% ในงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ากลยุทธ์การบริหารธุรกิจของบริษัทนั้นประสบผลสำเร็จ สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างต่อเนื่อง
 
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 4/2566 คาดว่าจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจโลกยังชะลอตัว ภาวะเงินเฟ้อ และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ทั่วโลก โดยประเมินว่าความต้องการในประเทศจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลของอุตสาหกรรมน้ำตาล และคำสั่งซื้อของลูกค้าต่างประเทศที่เลื่อนมาจากไตรมาสก่อน นอกจากนี้ ราคาพลังงานโลกที่ปรับลดลงจะส่งผลให้ต้นทุนสินค้าและบริการลดลง
 
ขณะเดียวกัน บริษัทยังเดินหน้าเพิ่มยอดขายในตลาดเป้าหมายที่มีอัตรากำไรเหมาะสม มุ่งเจาะตลาดใหม่ๆ โดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซีย และออสเตรเลีย ที่มีแนวโน้มเติบโตสูงจากอุตสาหกรรมดาวเด่น เช่น เหมืองนิกเกิล ลิเทียม แร่ธาตุหายาก (Rare-earth) มีโครงสร้างทางการเงินแข็งแรงขึ้น โดยการชำระคืนเงินกู้ที่ครบกำหนด เพื่อลดภาระดอกเบี้ย พร้อมลงทุนต่อเนื่องในโครงการพลังงานสะอาด ได้แก่ โครงการโซล่าร์ ซึ่งบริษัทประสบความสำเร็จอย่างมากในการช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้า และการใช้รถพลังงานไฟฟ้า เช่น รถบรรทุกอีวี รถตักอีวี เป็นต้น เพื่อลดต้นทุนอย่างยั่งยืน