Phones





SEAFCO คอนเฟิร์มรายได้เข้าเป้า 1.8 พันล. โบรกเชียร์ซื้อชี้เป้า 4.70 บ.

2023-11-15 18:51:25 483



 
นิวส์ คอนเน็คท์ – SEAFCO มั่นใจรายได้ปี 66 ทำได้ตามเป้าหมายที่ 1.8 พันล้านบาท จากปัจจุบันมี Backlog กว่า 1.1 พันล้านบาท คาดได้งานใหม่ช่วงปลายปีอีกกว่า 300 ล้านบาท ด้านบล.ฟินันเซียไซรัส ประเมินกำไรปี 66 ของ SEAFCO อยู่ในระดับ 150 – 160 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน 133 ล้านบาท แนะนำ “ซื้อ” SEAFCO ราคาเป้าหมาย 4.70 บาท 
 
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 ดร.ณรงค์ ทัศนนิพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAFCO เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาส 4/2566 มั่นใจว่าจะยังเห็นการเติบโตที่ดีทั้งรายได้และกำไรสุทธิ แต่อาจจะไม่เทียบเท่ากับไตรมาส 3/2566 ที่ผ่านมา เนื่องจากมีวันหยุดยาวค่อนข้างมากในเดือนธ.ค. แต่คาดว่าในช่วงปลายปีนี้บริษัทมีโอกาสได้รับงานใหม่เข้ามาเพิ่มเติมมูลค่าไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท
 
ทั้งนี้ บริษัทยังมั่นใจว่ารายได้รวมในปี 2566 จะทำได้ตามเป้าหมายที่ระดับ 1,800 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทยังมีงานในมือรอรับรู้รายได้(Backlog) ที่เหลือมาจากไตรมาส 3/2566 อีกกว่า 1,100 ล้านบาท และยังจะมีงานใหม่เข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้ต่อเนื่องไปได้ถึงช่วงไตรมาส 2/2567 โดยแนวโน้มธุรกิจในปี 2567 คาดว่าจะเริ่มกลับมาอยู่ในช่วงขาขึ้นของธุรกิจอีกครั้ง หลังจากลงไปอยู่ในจุดต่ำสุดแล้วตลอดช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา
 
“เรามองว่าวัฎจักรของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างจะเริ่มกลับสู่ขาขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ถือว่าดิ่งลงไปจนต่ำสุดแล้ว ซึ่งคาดว่าโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ของภาครัฐจะออกมาเกือบทั้งหมดในปี 67 ส่วนราคาหุ้น SEAFCO คงเป็นเรื่องของตลาดและนักลงทุน แต่ส่วนตังก็มองว่าราคาหุ้นลงมาค่อนข้างมากเกินไปหากเทียบกับพื้นฐานของเรา แต่ตอนนี้ผลงานของเราน่าจะสะท้อนอะไรได้บางอย่าง และโบรกเกอร์หลายรายก็เริ่มหันมามองหุ้น SEAFCO บ้าง” ดร.ณรงค์ กล่าว
 
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า  SEAFCO รายงาน กําไรสุทธิไตรมาส 3/2566 อยู่ที่ 63 ล้านบาท ซึ่งดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะมีกำไรเพียง 30-40 ล้านบาท เนื่องจากอัตรากําไรขั้นต้นฟื้นตัวมากกว่าที่คาดไว้ ขณะที่รายได้ก่อสร้างเร่งตัวดีขึ้นที่ 489 ล้านบาท โดยมาจากแรงขับเคลื่อนหลักมาจากการเร่งงานโครงการรถ ไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ทั้ง 3 สัญญา ได้เต็มที่ ซึ่งอัตรากําไรขั้นต้นปรับขึ้นเป็น 22.7% สูงสุดในรอบ 18 ไตรมาส เนื่องจากรายได้หลักมาจากรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ซึ่งเป็นงานรับเฉพาะค่าแรงและมาร์จิ้นดี รวมทั้ง SEAFCO ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีโดย SG&A ต่อรายได้ลดลงเป็น 6.6% จาก 8.1% ในไตรมาส 2/2566 และ 20.4% ในไตรมาส 3/2565 จากฐานรายได้ที่สูงขึ้น
 
ขณะที่ Backlog ณ สิ้นไตรมาส 3/2566 อยู่ที่ระดับ 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้ถึงไตรมาส 1/2567 โดยสัดส่วนหลักราว 30% หรือ 300 ล้านบาทเป็นรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ซึ่งงานจะทยอยส่งมอบในช่วงสิ้นปีนี้ ในส่วนของทิศทางกําไรไตรมาส 4/2566 เบื้องต้นคาดว่าจะทำได้ราว 40-50 ล้านบาท ชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้าเนื่องจากรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้อยู่ในช่วงปลายโครงการ รวมถึงมีวันหยุดยาวจํานวนมาก โดยคาดรายได้จะยืนเหนือระดับ 400 ล้านบาท และอัตรากําไรขั้นต้นที่ 20-22%ส่งผลให้ประมาณการกําไรปกติปี 2566 อยู่ที่ 114 ล้านบาท มี Upside เบื้องต้นคาดจบปีนี้ที่ 150-160 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน 133 ล้านบาทในปี 2565
 
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกําไรปกติปี 2567 ที่ 157 ล้านบาท บนสมมติฐานรถไฟฟ้าสายสีส้มเซ็นสัญญาช่วงต้นปี หน้า และเริ่มงานก่อสร้างในไตรมาส 2/2567 โดยคาดหวัง SEAFCO ได้รับงานฐานรากราว 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะทําให้โมเมนตัมกําไรในครึ่งปีหลังของปี 2567 โดดเด่นกว่าครึ่งปีแรกที่ต้องพึ่งพางานเอกชนขนาดเล็ก อาทิ คอนโด ตึกสูง ซึ่งมาร์จิ้นไม่สูง ขณะที่ราคาหุ้นปรับลง 20% ภายใน 2 เดือน ทําให้ Upside เปิดกว้าง จึงยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 4.70 บาท