Phones





BCPลุยลงทุน5ปี5หมื่นล. ดันEBITDAโต2.5เท่า

2019-12-23 18:00:16 803




นิวส์ คอนเน็คท์ - กลุ่ม BCP กางแผน 5 ปี อัดงบลงทุน 5 หมื่นล้านบาท ดัน EBITDA โต 2.5 เท่า เป้ากำลังการผลิตไฟฟ้า 1,000 เมกะวัตต์ ขณะที่ปี 63 เตรียมงบลงทุน 2,000 ล้านบาท ขยายปั๊ม-ร้านสะดวกซื้อ ชี้แนวโน้มธุรกิจน้ำมันยังคงผันผวน


เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2562 นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยว่า แผนการลงทุนของกลุ่ม BCP 5 ปี (2563-2567) เตรียมงบลงทุนไว้กว่า 50,000 ล้านบาท ไม่รวมการลงทุนของบริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ BBGI เพราะเตรียมระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยในสัดส่วนราว 60-70% เป็นการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าของบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG และอีก 23% เป็นการลงทุนในกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมันโดยตั้งเป้า EBITDA เติบโต 2.5 เท่า ภายใน 5 ปีข้างหน้า


อย่างไรก็ตาม ในปี 63 ในส่วนของธุรกิจการค้าน้ำมันและค้าปลีก คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 2,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้ 800 ล้านบาทเป็นการขยายสถานีบริการน้ำมัน 60 แห่ง ทำให้สิ้นปี 63 จะมีสถานีบริการน้ำมันเป็น 1,260 แห่ง จากสิ้นปี 62 มีสถานีบริการน้ำมัน 1,200 แห่ง ส่วนงบลงทุนที่เหลือเป็นการขยายลงทุนเปิดร้านกาแฟอินทนิล ปรับปรุงสถานีบริการน้ำมัน เป็นต้น ขณะที่การลงทุนปรับปรุงโรงกลั่นน้ำมันเพื่อรองรับมาตรฐานยูโร5 นั้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปการลงทุนในต้นปี 63 แล้วเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ปลายปี 63 โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 4-5 พันล้านบาท


ส่วนยอดขายน้ำมันผ่านสถานีบริการน้ำในปี 63 จะพยายามรักษาระดับให้อยู่ในระดับใกล้เคียงปี 62 อยู่ที่ 360 ล้านลิตรต่อเดือนเพิ่มขึ้น 7.5% และมั่นใจว่าส่วนแบ่งการตลาดในปี 63 จะเพิ่มขึ้นจากปีนี้มีส่วนแบ่งการตลาด 16% ภายใน 5 ปีจะเพิ่มเป็น 18% ส่วนภาพรวมผลประกอบการจะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น โดยคาดว่า EBITDA จะปรับตัวดีขึ้นกว่าปี 62 หลังจากปีนี้ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของราคาน้ำมัน ค่าการกลั่นปรับตัวลดลง ค่าเงินบาทแข็งค่า ขณะที่กำลังการกลั่นในปี 63 คาดว่าจะอยู่ในระดับ 104,000-105,000 บาร์เรลต่อวันจากปีนี้อยู่ในระดับ 112,500 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากในปี 63 มีแผนหนุดซ่อมบำรุง 40 วัน ทำให้กำลังการกลั่นหายไป 10%


ขณะที่ธุรกิจไฟฟ้าของ BCPG ในปีหน้ามีแนวโน้มเติบโตดีกว่าปี 62 เนื่องจากมีการขยายลงทุนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดลงทุนซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำสานที่ สปป.ลาว 69 เมกะวัตต์ จะรับรู้รายได้เต็มปีในปีหน้า รวมถึงรับปัจจัยหนุนจากพลังงานลมลิกอร์ 10 เมกะวัตต์ ที่ อ.ปากพนัง และรับรู้เต็มปีจากโซลาร์ฟาร์ม 75 เมกะวัตต์ที่ประเทศญี่ปุ่น และมีแผนขยายการลงทุนต่อเนื่อง ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 403.5 เมกะวัตต์ มีธุรกิจครอบคลุม 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และ สปป.ลาว และภายใน 5 ปีตั้งเป้ามีกำลังการผลิตเป็น 1,000 เมกะวัตต์ ตั้งเป้า EBITDA เติบโตเฉลี่ยปีละ 15%


ส่วนของธุรกิจการค้าน้ำมันโดย บริษัท BCP Trading จำกัด ซึ่งมีผลการดำเนินงานดีขึ้นจากปีก่อนทั้งด้านปริมาณ การค้าและธุรกรรมการซื้อขายน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ รวมทั้งมีธุรกรรมกับบริษัทคู่ค้าใหม่เพิ่มขึ้น จะขยายธุรกิจ โดยเพิ่มยอดการจัดซื้อและจัดจำหน่ายน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ ให้อยู่ในระดับ 250,000 บาร์เรลต่อวัน จากปัจจุบัน 68,000 บาร์เรลต่อวัน ในรูปแบบ Out-Out Trading ซึ่งเป็นการจัดซื้อและจำหน่ายสินค้าในต่างประเทศ โดยไม่นำเข้าประเทศไทย ในสัดส่วน 50%


สำหรับธุรกิจต้นน้ำของธุรกิจแบตเตอรี่ ซึ่งปัจจุบันมีกำลังการผลิตแร่ลิเทียมในเฟสที่ 1 เพิ่มขึ้นจาก 25,000 ตันต่อปี เป็น 40,000 ตันต่อปี รวมทั้งได้รับสิทธิ์ในการรับผลิตภัณฑ์จากแผนการจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ในปี 2564 ไปจำหน่ายเป็นจำนวน 6,000 ตันต่อปี เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่ได้รับสิทธิ์ จำนวน 2,500 ตันต่อปี ซึ่งปริมาณแร่ลิเทียมดังกล่าว เพียงพอสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าประมาณ 120,000 คัน นอกจากนี้ ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมผ่านบริษัท OKEA ที่นอร์เวย์ มีแหล่งน้ำมันดิบ Yme และ Grevling ในทะเลเหนือที่จะเริ่มเปิดดำเนินการเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้มีกำลังผลิตจากแหล่งน้ำมันดิบ 5 แหล่ง รวม 20 kboepd และบริษัทฯ จะยังคงแสวงหาแหล่งน้ำมันดิบและพลังงานใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง