Phones
หน้าแรก
Stock
เศรษฐกิจมหภาค
แบงก์ - Finance
อสังหาริมทรัพย์ - Marketing
ประกัน - ท่องเที่ยว
Variety
สกู้ป พิเศษ
SET
BANPU รุกลงทุนโครงการแบตเตอรี่ในออสเตรเลีย 350 เมกะวัตต์
MAI
DOD ชี้เทรนด์รักสุขภาพโตต่อ ดันรายได้ทั้งปีแตะ 800 ล.
IPO
PETPAL ยื่นไฟลิ่ง ลุยแผนเข้าตลาด mai
บล./บลจ
‘KuCoin’ จับมือ ‘FSS’ เสริมแกร่งสินทรัพย์ดิจิทัลไทย
เศรษฐกิจ-การเงิน-การคลัง
SCB EIC ลุ้นกนง.หั่นดอกเบี้ยสู่ 1.25% หลังศก.ไทยยังเผชิญความเสี่ยง
การค้า - พาณิชย์
คต. จัดคอร์สเสริมความรู้ผู้ส่งออกการตรวจสอบถิ่นกำเนิดสินค้า
พลังงาน - อุตสาหกรรม
GULF เดินหน้าพัฒนาท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3
คมนาคม - โลจิสติกส์
LEO ชูทางเลือกส่งออกทางเรือ–รถไฟ ลดเสี่ยงโลจิสติกส์
แบงก์ - นอนแบงก์
ออมสิน คว้ารางวัลระดับเอเชีย ผ่านนวัตกรรม ‘MyMo Secure Plus’
ไฟแนนซ์ - ลิสซิ่ง
คาร์ฟอร์แคช ส่งบริการใหม่ “รับเงินไวสุดใน 1 ชั่วโมง”
SMEs - Startup
World จับมือ Gogolook เปิดตัว World ID บนแอป Whoscall
ประกันภัย - ประกันชีวิต
ไทยประกันชีวิต เปิดตัวแคมเปญ “ทำโซเชียลให้มีความหมาย”
รถยนต์
นิสสัน ปรับปรุงสายการผลิตในไทย เสริมแกร่งการแข่งขันด้านต้นทุน
ท่องเที่ยว
VRANDA ชี้ท่องเที่ยวส่งสัญญาณฟื้นตัว เด้งรับ ‘เที่ยวคนละครึ่ง’
อสังหาริมทรัพย์
ศุภาลัย ส่งโปรฯ แรงกลางปี “ยิ้ม ยืด ยาว”
การตลาด
TCL ยกทัพนวัตกรรมทีวี ‘C Series’ QD Mini LED บุกทั่วไทย
CSR
World จับมือ Gogolook เปิดตัว World ID บนแอป Whoscall
Information
ตลท. จัดงานสัมมนา "Legacy & Future: 50 Years of Thai Capital Market"
Gossip
AMR ชวนร่วมงาน Mobility Tech Asia – Bangkok 2025
Entertainment
TCL เปิดแคมเปญ “CALRITY CHALLENGE"
สกุ๊ป พิเศษ
PTG แกร่งทุกมิติ ชู Non-Oil เรือธง
CIMBT ชี้ท่องเที่ยว เกษตร การผลิต หนุนจีดีพีปีมังกร
2023-12-12 17:53:30
125
sharer
นิวส์ คอนเน็คท์ – CIMBT ประเมินเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัว 3.1% ในปี 67 หลังการฟื้นตัวที่อัตรา 2.4% ในปี 66 โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการฟื้นตัวใน 3 ภาคส่วนสำคัญ ได้แก่ ภาคการท่องเที่ยว ภาคการเกษตร และภาคการผลิต
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2566 ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMBT เปิดเผยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจโลกผันผวน ซับซ้อน และคาดเดายากขึ้นเรื่อยๆ การจะทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวและเติบโต ท่ามกลางภูมิรัฐศาสตร์โลกที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงและความท้าทาย ต้องอาศัยนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหมาะสม ปี 2567 จึงเปรียบได้กับ ปริศนามังกร ที่มีปริศนาต้องแก้ไขฝ่าด่านเต็มไปหมด คำถามที่ยากที่สุดคือ ไทยจะรักษาสมดุลอย่างไร ระหว่างทิศทางดอกเบี้ยขาลงในตลาดการเงินโลก กับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ โดยไม่ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งสูงหรือเงินไหลออก
ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัว 3.1% ในปี 2567 หลังการฟื้นตัวที่อัตรา 2.4% ในปี 2566 แนวโน้มการเติบโตที่ดีนี้ได้รับแรงสนับสนุนจากการฟื้นตัวใน 3 ภาคส่วนสำคัญ ได้แก่ ภาคการท่องเที่ยว ภาคการเกษตร และภาคการผลิต สะท้อนความแข็งแกร่งของตลาดภายในของไทยและการบูรณาการเข้ากับเศรษฐกิจโลก
โดยในปี 2567 คาดว่าความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคต่าง ๆ ที่มีความเปราะบางและเสี่ยงสูง พร้อมปะทุได้ทุกเมื่อ เสี่ยงต่อการลดลงของอุปสงค์ทั่วโลกและการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉพาะความขัดแย้งที่ยังดำรงอยู่ทั้งในยูเครนและอิสราเอล ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ทวีความรุนแรงขึ้น และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนอันเนื่องมาจากหนี้สินของบริษัทที่เพิ่มขึ้นและราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ตกต่ำ แม้สหรัฐฯจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยทางเทคนิคได้ แต่ดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ทำให้ตลาดการเงินมีความไม่แน่นอน ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางของประเทศเศรษฐกิจหลักอาจเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงภายในกลางปี 2567 เพื่อฟื้นเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัว
ขณะที่ด่านทดสอบที่สำคัญสำหรับเศรษฐกิจไทยในปี 2567 คือ การออกแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลหรือดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อกระตุ้นการบริโภคทั่วทุกภูมิภาคของประเทศโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย แม้ว่านโยบายนี้สามารถส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ (โดยอาจเพิ่มเป็น 3.6% เทียบกับ 3.1% กรณีไม่มีนโยบายนี้) แต่ยังทำให้เกิดความกังวลต่อการเพิ่มขึ้นของหนี้สาธารณะ ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับลดอันดับเครดิตและการไหลออกของเงินทุน ทั้งนี้ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการดำเนินการและความจำเป็นของนโยบายนี้อาจต้องพิจารณาสถานการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2567 ใน 2 สถานการณ์ด้วยกัน คือ กรณีที่มีดิจิทัลวอลเล็ต และกรณีที่ไม่มีดิจิทัลวอลเล็ต
อย่างไรก็ตาม จากคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ต่ำกว่า 2% ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จึงมีแนวโน้มมุ่งเน้นไปที่การกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้อาจรวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 2.50% เป็น 2.00% ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ธปท.อาจเลือกคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิมจนถึงสิ้นปีเพื่อรักษาเสถียรภาพตลาดเงินในกรณีที่มีการออกดิจิทัลวอลเล็ต
ในส่วนของอัตราแลกเปลี่ยน คาดว่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเฉพาะหลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงเดือนพฤษภาคม 2567 ตามการคาดการณ์ ควบคู่ไปกับราคาน้ำมันที่ทรงตัว และรายได้จากการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดีขึ้น ซึ่งจะสนับสนุนให้ไทยมีฐานะเกินดุลบัญชีเดินสะพัดมากขึ้น และเอื้อให้เงินบาทกลับมาแข็งค่าและมีเสถียรภาพได้ ทั้งนี้ คาดว่าเงินบาทจะแตะ 33.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯภายในสิ้นปี 2567
ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวและบริการเป็นภาคหลักของการฟื้นตัว โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาถึง 34 ล้านคนในปี 2567 ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอาเซียน รัสเซีย และยุโรป โดยนักท่องเที่ยวจีนอาจเพิ่มขึ้นช้ากว่าคาด ทั้งนี้ แรงส่งเศรษฐกิจปีหน้าจึงยังอยู่ที่ภาคการท่องเที่ยว ในส่วนของภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร คาดว่าผลผลิตทางการเกษตรจะเพิ่มขึ้นจากสภาพภูมิอากาศที่เอื้ออำนวย และได้แรงหนุนจากราคาที่ทรงตัวหรือสูงขึ้น ช่วยฟื้นฟูการบริโภคและการลงทุนในผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปและสินค้าเกษตร ทางด้านภาคการผลิต คาดการณ์ว่าการส่งออกจะเติบโต 2.5% ในปี 2567 โดยเฉพาะการผลิตยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และอาหารแปรรูป แม้จะมีความท้าทาย แต่สัญญาณของการฟื้นตัวยังปรากฏชัดในอิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบสำคัญ
ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปลายปี 2566 ถึงกลางปี 2567 โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของการส่งออกและการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม กำลังซื้อของครัวเรือนที่มีรายได้น้อยถึงปานกลางอาจยังคงที่ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่มุ่งเน้นเพิ่มการใช้จ่ายของผู้เสียภาษีอาจช่วยกระตุ้นการบริโภคได้ชั่วคราว ทั้งนี้ กุญแจสำคัญในการไข 'ปริศนามังกร' อยู่ที่ไทยจะรักษาสมดุลทิศทางดอกเบี้ยขาลงของตลาดการเงินโลกกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศได้อย่างราบรื่นมากน้อยแค่ไหน โดยไม่ส่งผลกระทบให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งสูงหรือให้เงินไหลออก เพราะเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มสดใสมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง จากทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาลงซึ่งเราคงเห็นความชัดเจนมากขึ้นในช่วงกลางปี 2567 นี้
BANPU รุกลงทุนโครงการแบตเตอรี่ในออสเตรเลีย 350 เมกะวัตต์
TMAN เข้าคำนวณดัชนี sSET ตอกย้ำ! พื้นฐานแกร่ง - RT รุกชิงงานใหม่ 7,500 ล.
CPALL ออกหุ้นกู้ใหม่สำเร็จตามเป้า 1.5 หมื่นลบ.
SO รุก Outsourcing อัพรายได้โต 20%
RT ตั้งเป้าประมูลงานใหม่ 7,500 ล้านบาท
GUNKUL รุกลงทุน 'พลังงานสีเขียว' - READY ยกระดับธุรกิจยุคใหม่ใช้ MarTech