Phones





SEAFCO คอนเฟิร์มรายได้ 1.8 พันล.

2023-12-18 09:32:45 102



SEAFCO คอนเฟิร์มรายได้ 1.8 พันล. (สกู๊ปพิเศษ)
หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง และรัฐบาลเดินหน้าเพิ่มการลงทุน การใช่จ่ายภายในประเทศ เพื่อผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจ ส่งผลทางบวกต่อธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอย่าง บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAFCO เช่นกัน

โดยผลดำเนินงานไตรมาส 3/66 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 66 SEAFCO มีผลกําไรสุทธิของส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้น งวด 3 เดือน และ 9 เดือนของปี 66 เท่ากับ 62.59 ล้านบาท และ 133.66 ล้านบาท เทียบปี 65 ที่มีผลขาดทุนเท่ากับ 38.99 ล้านบาท และ 139.14 ล้านบาท ซึ่งในงวดไตรมาส 3/66 กําไรเพิ่มขึ้น 260.53% และ 9 เดือน ผลกําไรเพิ่มขึ้น 196.06% ขณะที่เมื่อช่วงไตรมาส 2/66 มีกำไร 12.55 ล้านบาท และงวด 6 เดือนปี 66 กำไรสุทธิ 71.08 ล้านบาท

ดร.ณรงค์ ทัศนนิพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ SEAFCO ระบุว่า ภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาส 4/66 มั่นใจว่าจะยังเห็นการเติบโตที่ดี ทั้งรายได้และกำไรสุทธิ แต่อาจจะไม่เทียบเท่ากับไตรมาส 3 ที่ผ่านมา เนื่องจากมีวันหยุดยาวค่อนข้างมากในเดือน ธ.ค. แต่คาดว่าในช่วงปลายปีนี้ บริษัทมีโอกาสได้รับงานใหม่เข้ามาเพิ่มเติมมูลค่าไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท
 
"บริษัทยังมั่นใจว่า รายได้รวมในปี 66 จะทำได้ตามเป้าหมายที่ระดับ 1,800 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทยังมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) ที่เหลือมาจากไตรมาส 3/66 อีกกว่า 1,100 ล้านบาท และยังจะมีงานใหม่เข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้ต่อเนื่องไปได้ถึงช่วงไตรมาส 2/67 ส่วนแนวโน้มในปี 67 คาดว่าจะเริ่มกลับมาอยู่ในช่วงขาขึ้นของธุรกิจอีกครั้ง หลังจากลงไปอยู่ในจุดต่ำสุดแล้วตลอดช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา" ดร.ณรงค์ กล่าว

ช่วงกลางปี SEAFCO ประเมินว่า ในปี 66 รายได้อาจจะทำได้ที่ 1,500 ล้านบาท แต่เมื่อสถานการณ์ทุกด้านเริ่มดีขึ้น ทำให้ความมั่นใจที่จะอัพรายได้ไปถึง 1,800 ล้านบาท "ไม่ใช่เรื่องยาก" 
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า SEAFCO รายงานกําไรสุทธิไตรมาส 3/66 อยู่ที่ 63 ล้านบาท ซึ่งดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะมีกำไรเพียง 30-40 ล้านบาท เนื่องจากอัตรากําไรขั้นต้นฟื้นตัวมากกว่าที่คาดไว้ ขณะที่รายได้ก่อสร้างเร่งตัวดีขึ้นที่ 489 ล้านบาท โดยมาจากแรงขับเคลื่อนหลักมาจากการเร่งงานโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ทั้ง 3 สัญญาได้เต็มที่ ซึ่งอัตรากําไรขั้นต้นปรับขึ้นเป็น 22.7% สูงสุดในรอบ 18 ไตรมาส เนื่องจากรายได้หลักมาจากรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ซึ่งเป็นงานรับเฉพาะค่าแรงและมาร์จิ้นดี รวมทั้ง SEAFCO ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีโดย SG&A ต่อรายได้ลดลงเป็น 6.6% จาก 8.1% ในไตรมาส 2/66 และ 20.4% ในไตรมาส 3/65 จากฐานรายได้ที่สูงขึ้น
 
ขณะที่ Backlog ณ สิ้นไตรมาส 3/66 อยู่ที่ระดับ 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้ถึงไตรมาส 1/67 โดยสัดส่วนหลักราว 30% หรือ 300 ล้านบาท เป็นรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ซึ่งงานจะทยอยส่งมอบในช่วงสิ้นปีนี้ ในส่วนของทิศทางกําไรไตรมาส 4/66 เบื้องต้นคาดว่าจะทำได้ราว 40-50 ล้านบาท ชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้อยู่ในช่วงปลายโครงการ รวมถึงมีวันหยุดยาวจํานวนมาก โดยคาดรายได้จะยืนเหนือระดับ 400 ล้านบาท และอัตรากําไรขั้นต้นที่ 20-22% ส่งผลให้ประมาณการกําไรปกติปี 66 อยู่ที่ 114 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน 133 ล้านบาทในปี 65
 
ฝ่ายวิจัยฯ คงประมาณการกําไรปกติปี 67 ที่ 157 ล้านบาท บนสมมติฐานรถไฟฟ้าสายสีส้มเซ็นสัญญาช่วงต้นปี 67 และเริ่มงานก่อสร้างในไตรมาส 2/67 โดยคาดหวัง SEAFCO ได้รับงานฐานรากราว 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะทําให้โมเมนตัมกําไรในครึ่งปีหลังของปี 67 โดดเด่นกว่าครึ่งปีแรกที่ต้องพึ่งพางานเอกชนขนาดเล็ก อาทิ คอนโด ตึกสูง ซึ่งมาร์จิ้นไม่สูง คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 4.70 บาท