Phones





PTG ปี 66 ยอดขายออลไทม์ไฮ

2023-12-19 15:31:23 98



PTG ปี 66 ยอดขายออลไทม์ไฮ (สกู๊ปพิเศษ)
ปิดงบไตรมาส 3/66 ได้สวยงาม สำหรับ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG โดยสามารถกลับมามีกำไรสุทธิ 24 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายและบริการจำนวน 47,548 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.3% เทียบงวดเดียวกันปีก่อน ส่วนงวด 9 เดือนปี 66 มีกำไรสุทธิ 424 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายและบริการจำนวน 149,286 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.4% เทียบงวดเดียวกันปีก่อน 

ปัจจัยหลักมาจากธุรกิจ Oil ที่มีรายได้เพิ่มขึ้น 12.5% เป็น 139,360 ล้านบาท จากปริมาณการจำหน่ายน้ำมัน 9 เดือนแรกผ่านทุกช่องทางเติบโต 12.9% เทียบงวดเดียวกันปีก่อน เป็น 4,414 ล้านลิตร ส่วนธุรกิจ Non-Oil มีรายได้เติบโต 52% เทียบงวดเดียวกันปีก่อน เป็น 9,926 ล้านบาท โดยการเติบโตหลักๆ มาจากธุรกิจก๊าซ LPG ที่มีรายได้จำนวน 6,117 ล้านบาท เติบโต 55.5% จากปริมาณการจำหน่ายก๊าซ LPG ที่ยังคงสร้างสถิติสูงที่สุดอย่างต่อเนื่องที่จำนวน 466 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 30.2% เทียบงวดเดียวกันปีก่อน ขณะที่ธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทยมีรายได้เพิ่มขึ้น 58.6% เทียบงวดเดียวกันปีก่อน จากการขยายสาขาต่อเนื่อง ประกอบกับการเติบโตของสาขาเดิม จากการกลับเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่องของกลุ่มลูกค้าผู้ถือบัตร PT Max Card และ PT Max Card Plus
“แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/66 คาดว่าจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้ จากการเติบโตของทุกธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจน้ำมันและก๊าซ ที่คาดว่ายอดขายจะมีการเติบโตนิวไฮต่อเนื่อง ได้รับปัจจัยบวกจากฤดูกาลของการท่องเที่ยว และค่าการตลาดน้ำมันที่ฟื้นตัว นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังเดินหน้าปรับปรุงสถานีบริการน้ำมันเดิม และเปิดสถานีบริการน้ำมันใหม่เพิ่มเป็น 2,206 สถานีบริการ เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมามีปริมาณการจำหน่ายน้ำมันทำสถิติสูงสุดใหม่ติดต่อกันถึง 4 ไตรมาส จึงมั่นใจว่ายอดขายน้ำมันปี 66 จะเติบโต 10-15% ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ดันมาร์เก็ตแชร์ทะลุ 20% จากปัจจุบันอยู่ที่ 19.2% ในไตรมาส 3/66” นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ PTG ระบุ

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ขยายจำนวนและปรับปรุงสถานีบริการในพื้นที่ที่มีศักยภาพ และมีการเข้าใช้บริการซ้ำของกลุ่มลูกค้าผู้ถือบัตร PT Max Card และ PT Max Card Plus เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง วางเป้าการขยายสถานีบริการไว้ที่ 2,206 สถานีบริการ ในปี 66 
ขณะที่ธุรกิจ Non-Oil วางเป้าหมายการเติบโตของรายได้ไว้ที่ 50-60% ขณะที่สัดส่วนกำไรขั้นต้นยังคงเดิมที่ระดับ 20-30% ในส่วนของธุรกิจก๊าซ LPG ยังคงสร้างการเติบโตจากปริมาณการจำหน่ายก๊าซ LPG ที่สูงเป็นประวัติการณ์ และมียอดขายเกิน 100 ล้านลิตรถึง 8 ไตรมาสติดต่อกัน และมองว่าจะยังสามารถสร้างสถิติใหม่อย่างต่อเนื่องในไตรมาสสุดท้ายของปี คาดว่ายอดขายทั้งปีจะเติบโต 30-40% โดย LPG ยังครองส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มบริการการจำหน่ายก๊าซ LPG ผ่านสถานีบริการเป็นอันดับที่ 1 ในงวด 9 เดือนที่ผ่านมา ส่วนธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทย เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ จากการขยายสาขาเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า และการกลับมาใช้ซ้ำอย่างต่อเนื่องของสมาชิกบัตร PT Max Card และ PT Max Card Plus ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 20 ล้านสมาชิก รวมถึงธุรกิจพลังงานทางเลือก เช่น จุดชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า Elex by EGAT Max ที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อครอบคลุมเส้นทางในกรุงเทพฯ และเส้นทางหลักทั่วประเทศมากขึ้น ด้านศูนย์บริการและซ่อมบำรุงรถยนต์ Autobacs ปัจจุบันมี 59 สาขา เพิ่มขึ้น 14 สาขา จากต้นปี 66
ล่าสุด บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ได้เผยแพร่บทวิเคราะห์ โดยปรับราคาเป้าหมายของ PTG ปี 67 ไว้ที่ 11.50 บาท จากเดิม 10.40 บาท เพื่อสะท้อนถึงประมาณการอัตราการเติบโตของกำไรปี 67 ที่ 34% เทียบกับช่วงเดียวกันปี 66 และปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น "ซื้อ" จากเดิม "ถือ" เนื่องจากคาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/66 และเผชิญแรงกดดันน้อยลงจากการคุมเข้มค่าการตลาดน้ำมันเบนซินในไทย หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบดูไบลดลงในไตรมาสนี้

โดยประเมินแนวโน้มกำไรสุทธิปี 66 ของ PTG ไว้ที่ 994 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เทียบปี 65 เนื่องจากคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 4/66 จะสูงกว่า 500 ล้านบาท (จากขาดทุนสุทธิ 4 ล้านบาทในไตรมาส 4/65 และกำไรสุทธิ 19 ล้านบาทในไตรมาส 3/66) ซึ่งกำไรที่เพิ่มขึ้น คาดการณ์มาจากปริมาณยอดขายน้ำมันที่เพิ่มขึ้นเป็น 1,550 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 10% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และไตรมาสที่ผ่านมา รวมถึงค่าการตลาดน้ำมันที่เพิ่มเป็น 1.90 บาท/ลิตร เพิ่มขึ้น 20% จากกับช่วงเดียวกันปีก่อน และ 14% เทียบไตรมาสที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังคาดว่ากำไรจากธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non-Oil) จะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบไตรมาสที่ผ่านมา เพราะยอดขายร้าน Max Mart และร้านกาแฟพันธุ์ไทยสูงขึ้นตามจำนวนรถที่มาใช้บริการสถานีบริการน้ำมันแบรนด์ PT ในไตรมาส 4/66 ที่เพิ่มขึ้น

พร้อมทั้งคงประมาณการกำไรปี 67 ไว้ที่ 1.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% เทียบปี 66 เนื่องจากปริมาณยอดขายน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็นหลัก โดยใช้สมมุติฐานว่าปริมาณยอดขายน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 6% เทียบกับงวดเดียวกันปี 66 เป็น 6,300 ล้านลิตรในปี 67 จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวไทย หลังจากที่นักวิเคราะห์กลุ่มท่องเที่ยวของ KGI ประเมินว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 67 จะเพิ่มขึ้น 16% เป็น 32 ล้านคน จาก 27.5 ล้านคนในปี 66