Phones





DITTO ย้ายเข้าเทรด SET ตั้งเป้ารายได้โต 30%

2024-01-16 14:31:01 198




นิวส์ คอนเน็คท์ - DITTO ได้ฤกษ์ 17 ม.ค.นี้ เทรดใน SET วันแรก มั่นใจกองทุนทั้งในและต่างประเทศเข้าลงทุน พร้อมเดินหน้า Green Tech และ Carbon Credit ถือเป็นการเปิดโอกาสให้กองทุนด้าน ESG มาลงทุนในบริษัทมากขึ้น ส่วนแผนงานปี 67 ตั้งเป้ารายได้โต 30% จากงานใหม่ที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งปัจจุบันบริษัทอวดงานในมือ (Blacklog) กว่า 5,000 ล้านบาท 

เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2566 นายฐกร รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DITTO เปิดเผยว่า บริษัทได้รับอนุมัติจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในการย้ายกระดานเทรดจากกลุ่มเทคโนโลยี ตลาดเอ็มเอไอ (mai) เข้าทำการซื้อขายใน SET กลุ่มเทคโนโลยี มีผลตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม 2567 นี้เป็นต้นไป

สำหรับการย้ายหุ้นเข้ามาเทรดใน SET สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯ ที่เพิ่มขึ้นและสร้างความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มนักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบัน ที่ผ่านมาการที่อยู่ใน mai ทำให้การเข้ามาลงทุนของนักลงทุนมีข้อจำกัด โดยเฉพาะกองทุนและนักลงทุนต่างประเทศซึ่งบางกองทุนมีเงื่อนไขในการลงทุน การย้ายมาซื้อขายใน SET จึงเป็นการเปิดกว้างในการลงทุนมากขึ้น

ปัจจุบันคุณสมบัติของบริษัทพร้อมแล้วสำหรับการเข้ามาซื้อขายใน SET ธุรกิจได้มีการเติบโต อีกทั้งการที่บริษัทเข้าไปถือหุ้นใน NETBAY และเป็นพันธมิตรธุรกิจกับ TEAMG ทำให้มีศัยภาพในการรับงานต่างๆมากขึ้น

ด้านนายชัยทัด กุลโชควณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DIITTO กล่าวว่า การที่บริษัทย้ายไปซื้อขายหรือเทรดในตลาดหลักทรัพย์ หรือ SET ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้หุ้นของ DITTO มีโอกาสอยู่ในสายตาของกองทุนในประเทศและกองทุนต่างประเทศ ที่มีข้อกำหนดว่ากองทุนจะลงทุนใน SET หรือ SET 100 เป็นหลัก

“วันนี้ DITTO ทำเรื่อง Green Tech เรื่อง Carbon Credit ยิ่งเปิดโอกาสให้กองทุนด้าน ESG มาลงทุนในบริษัทมากขึ้น ในอดีตมีกองทุนเช่น Morgan Stanley Small cap (MSCI) เข้ามาลงทุนในหุ้นที่เทรดในตลาด mai แต่ก็มีข้อจำกัดในการลงทุน ซึ่งการย้ายเข้าไปเทรดใน SET จะขยายกลุ่มผู้ลงทุนของ DITTO ให้กว้างขึ้น” นายชัยทัด กล่าว

ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2567 เราตั้งเป้าโตจากเดิมราว 30% ซึ่งในอดีต 2-3 ปีมานี้ รายได้ของบริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด และในปีนี้มีงานในมือ (Blacklog) กว่า 5,000 ล้านบาท อีกทั้งจะมีงานใหม่เข้ามาเรื่อยๆ ดังนั้นมั่นใจว่าเป้าหมายคงเป็นไปตามที่ตั้งไว้แน่นอน