Phones





KBANK ประกาศแผนธุรกิจปีมังกร ขับเคลื่อนด้วย “ยุทธศาสตร์ 3+1”

2024-01-26 16:49:14 3143



 
นิวส์ คอนเน็คท์ – KBANK ประกาศแผนธุรกิจปี 67 ขับเคลื่อนด้วย “ยุทธศาสตร์ 3+1” โดยตั้งเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อรวมไว้ที่ระดับ 3-5% พร้อมควบคุม NPL ไม่ให้เกินกว่า 3.25% ขณะที่ตั้งเป้า AUM ของบลจ. กสิกรไทย เติบโตประมาณ 30-40% จากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 9.24 แสนล้านบาท   
 
เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2567 นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2567 ธนาคารจะขับเคลื่อนด้วย “ยุทธศาสตร์ 3+1” สร้างการเติบโตผ่าน 3 ลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์ ได้แก่ การยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพด้านสินเชื่อ การขยายธุรกิจรายได้ค่าธรรมเนียม และการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับช่องทางต่างๆ ของธนาคาร เพื่อส่งมอบการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการดำเนินยุทธศาสตร์ ‘+1’ ที่จะช่วยสร้างรายได้ใหม่ในระยะกลางและระยะยาว
 
ทั้งนี้ ธนาคารตั้งเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อรวมในปี 2567 ที่ 3-5% สอดคล้องกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ เน้นการเติบโตอย่างมีคุณภาพในธุรกิจที่ฟื้นตัว สินเชื่อมีหลักประกัน และการเติบโตในภูมิภาค พร้อมยกระดับการดูแลคุณภาพสินทรัพย์ โดยปรับกลยุทธ์การปล่อยสินเชื่อ เสริมศักยภาพด้านเครดิตแบบ end-to-end โดยตั้งเป้าสินเชื่อบรรษัทธุรกิจเติบโต 2-4% สินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอีเติบโต 1-2% และสินเชื่อลูกค้าบุคคลเติบโต 1-2% รวมทั้งควบคุมระดับเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (NPL Ratio - Gross) น้อยกว่า 3.25%
 
อย่างไรก็ตาม เมื่อมองถึงบริบทการดำเนินธุรกิจในช่วงเวลาต่อจากนี้ ธุรกิจธนาคารจะเผชิญความท้าทายทั้งสภาพเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกที่มีความไม่แน่นอน การพัฒนาบริการเพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค และการเข้ามาของผู้ให้บริการทางการเงินที่ไม่จำกัดอยู่แค่สถาบันการเงินอีกต่อไป ธนาคารจึงได้ประกาศแผน “ยุทธศาสตร์ 3+1” ด้วยการเตรียมพร้อมอย่างแข็งแกร่งในทุกด้าน เพื่อผลักดันอัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) เป็นเลข 2 หลัก ให้ได้ภายในปี 2569
 
โดยภายใต้ “ยุทธศาสตร์ 3 +1” ธนาคารมียุทธศาสตร์หลักที่มุ่งเน้น 3 ด้าน ได้แก่ ยุทธศาสตร์หลักที่ 1 ยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพด้านสินเชื่อ โดยมีกลยุทธ์หลัก คือ การขยายพอร์ตผลิตภัณฑ์สินเชื่ออย่างมีคุณภาพ เสนอผลิตภัณฑ์แก่กลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพ รวมทั้งการดำเนินการเชิงรุกในการรักษากลุ่มลูกค้าที่มีสินเชื่อกับธนาคารอยู่แล้วในปัจจุบัน มุ่งเติบโตสินเชื่ออย่างมีคุณภาพ
 
สำหรับยุทธศาสตร์หลักที่ 2 คือการขยายธุรกิจรายได้ค่าธรรมเนียม นำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนและการให้คำปรึกษาด้านความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนแบบองค์รวมที่เหมาะสมกับความต้องการตลอดช่วงชีวิตของลูกค้า ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ครอบคลุมทั้งของธนาคารและจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด และพันธมิตร อาทิ กองทุนรวม แบงก์แอสชัวรันส์ และผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่น ๆ ด้วยการนำเสนอผ่านช่องทางการขายและบริการอย่างครอบคลุม โดยตั้งเป้าสินทรัพย์กองทุนรวมภายใต้การจัดการ (Mutual Fund AUM) ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (KAsset) เติบโตประมาณ 30-40% ภายในปี 2569 โดย KAsset มี Mutual Fund AUM ในกองทุนรวมที่ 9.24 แสนล้านบาทในปี 2566
 
นอกจากนี้ ธนาคารจะมุ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำในการให้บริการชำระเงินทางดิจิทัลผ่านช่องทาง K PLUS ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุด ด้วยการยกระดับและเพิ่มนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะทำให้เป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น ส่งมอบความปลอดภัย สะดวก และง่ายในทุกฟังก์ชันการใช้งาน
 
ในส่วนของยุทธศาสตร์หลักที่ 3 เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับช่องทางต่าง ๆ ของธนาคารที่มีอยู่ในปัจจุบัน ควบคู่กับการริเริ่มช่องทางใหม่ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้าในทุกที่ทุกเวลา ภายใต้ยุทธศาสตร์นี้ ธนาคารจะบูรณาการ K PLUS ซึ่งเป็นผู้นำในช่องทางดิจิทัล กับแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันอื่น ๆ ที่หลากหลาย ผสมผสานกับการส่งมอบบริการในช่องทาง Physical เพื่อส่งมอบประสบการณ์บริการอย่างไร้รอยต่อและปลอดภัย ตั้งเป้าหมายเพิ่มฐานผู้ใช้งาน K PLUS เติบโตประมาณ 20-30% ภายในปี 2569 และรักษาความเป็นผู้นำ จากปัจจุบันที่มีจำนวนผู้ใช้งาน 21.7 ล้านราย ในปี 2566
 
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากยุทธศาสตร์หลักแล้ว ยังมี ยุทธศาสตร์ ‘+1’ คือ สิ่งที่ธนาคารดำเนินการเพื่อแสวงหารายได้ใหม่ ได้แก่ การลงทุนผ่านบริษัท กสิกร อินเวสเจอร์ จำกัด (KIV) การขยายธุรกิจในภูมิภาค และนวัตกรรมที่เป็นมากกว่าบริการทางการเงิน โดยคาดว่าภายใน 5 ปีข้างหน้า ‘+1’ จะมีสัดส่วนประมาณ 5% ของกำไรสุทธิของธนาคาร
 
“แผนยุทธศาสตร์ดังกล่าว สอดคล้องกับการจัดลำดับความสำคัญทางธุรกิจของธนาคารเพื่อการเติบโตอย่างสมดุล โดยมุ่งเน้นการดำเนินนโยบายการให้สินเชื่ออย่างระมัดระวัง ควบคู่กับการรักษาระดับเงินทุนที่เหมาะสมสอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจ นำไปสู่การกำหนดเป้าหมายทางการเงินปี 2567 ที่เหมาะสม” นางสาวขัตติยา กล่าว
 
ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่จะเป็นตัวช่วยขับเคลื่อน (Enablers of K-Strategy) ทำให้ธนาคารสามารถเดินหน้าได้ตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่ 1. เทคโนโลยีที่ทันสมัย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และเป็นเครื่องมือในการสร้างนวัตกรรมที่ยกระดับให้ธนาคารเป็นผู้ให้บริการทางการเงินชั้นนำในระดับภูมิภาค 2. ความสามารถในการวิเคราะห์และการใช้ข้อมูล เป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของธนาคาร และ 3. ทรัพยากรบุคคลที่มีศักยภาพ ด้วยรูปแบบการทำงานที่เห็นผลลัพธ์ เป็นหัวใจสำคัญในการทำแผนงานทั้งหลายให้เกิดขึ้นจริงและวัดผลได้