Phones





เงินเฟ้อ ม.ค.67 ติดลบ 1.11% ยัน! ไม่ใช่สัญญาณเงินฝืด

2024-02-06 09:01:28 77



นิวส์ คอนเน็คท์ - พาณิชย์เผย เงินเฟ้อ ม.ค. 67 ติดลบ 1.11% ลดลงต่อเนื่อง 4 เดือนติด และต่ำสุดในรอบ 35 เดือน เหตุมาตรการรัฐลดน้ำมัน ค่าไฟ สินค้าอาหารสดลดต่อเนื่อง ย้ำไม่มีสัญญาณเงินฝืด คาดเงินเฟ้อปี 67 ติดลบ 0.3% ถึงเพิ่ม 1.7% โดยมีค่ากลางที่ 0.7%

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือน ม.ค. 2567 เท่ากับ 106.98 เทียบกับ ธ.ค. 2566 เพิ่มขึ้น 0.02% เทียบกับเดือน ม.ค. 2566 ลดลง 1.11% ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน และต่ำสุดในรอบ 35 เดือน นับจาก ก.พ. 2564 โดยมีปัจจัยสำคัญมาจาก มาตรการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของภาครัฐ ประกอบกับราคาสินค้าในกลุ่มอาหารสดยังคงลดลงต่อเนื่องจากเดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะผักสดและเนื้อสัตว์ เนื่องจากปริมาณผลผลิตเข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น รวมทั้งฐานราคาเดือน ม.ค. 2566 ที่ใช้คำนวณเงินเฟ้อค่อนข้างสูง มีส่วนทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลง ขณะที่สินค้าและบริการอื่นๆ ราคาเคลื่อนไหวในทิศทางปกติ

“เรื่องเงินฝืด มีคำถามมา 2-3 เดือนแล้ว อย่างที่บอก มันเป็นตัวชี้วัดหนึ่ง ที่บอกว่าลบติดต่อกัน 3 เดือน เป็นเงินฝืด แต่ก็ต้องไปดูว่าสินค้าส่วนใหญ่ลดลงหรือเปล่า ก็มีสูงขึ้น ลดลง คงที่ และยังต้องไปดูที่เงินเฟ้อ มันเฟ้อโดยตัวของมันเอง หรือมีกลไกแทรกแซง ซึ่งมีการแทรกแซง โดยเฉพาะนโยบายลดค่าครองชีพ ทั้งน้ำมัน ค่าไฟฟ้า ที่เป็นตัวหลัก สรุป คือ ยังไม่ฝืด ยังไม่น่าเป็นห่วง” นายพูนพงษ์กล่าว

เงินเฟ้อเดือน ม.ค. 2567 ที่ลดลง 1.11% มาจากสินค้าหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ลดลง 1.13% ตามการลดลงของราคาสินค้าในกลุ่มพลังงาน ทั้งน้ำมันในกลุ่มดีเซล แก๊สโซฮอล์ 91 E20 E85 และค่ากระแสไฟฟ้า เสื้อผ้าบุรุษและสตรี สิ่งที่เกี่ยวกับทำความสะอาด (ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาล้างจาน) ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า ราคายังคงลดลงอย่างต่อเนื่องตามการจัดโปรโมชันเพื่อกระตุ้นยอดจำหน่าย ส่วนสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ลดลง 1.06% ตามการลดลงของราคาสินค้าในกลุ่มเนื้อสัตว์ เป็ด ไก่และสัตว์น้ำ (เนื้อสุกร ไก่สด ปลาทู กุ้งขาว ปลากะพง) ผักสด (มะเขือ มะนาว แตงกวา) และผลไม้ (ส้มเขียวหวาน ลองกอง มะม่วง) เนื่องจากปริมาณผลผลิตเข้าสู่ตลาดจำนวนมาก 

ด้านเงินเฟ้อพื้นฐานเดือน ม.ค. 2567 เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออก เพิ่มขึ้น 0.02% เมื่อเทียบกับเดือน ธ.ค. 2566 และเพิ่มขึ้น 0.52% เมื่อเทียบกับเดือน ม.ค. 2566
     
นายพูนพงษ์กล่าวว่า แนวโน้มเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ก.พ. 2567 และเดือน มี.ค. 2567 คาดว่าจะลดลงต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการลดค่าครองชีพด้านพลังงาน ได้แก่ การตรึงราคาค่ากระแสไฟฟ้าในอัตราไม่เกิน 3.99 บาทต่อหน่วย สำหรับครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ซึ่งมีประชาชนได้รับประโยชน์ 17.77 ล้านราย และมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร จนถึงวันที่ 19 เม.ย.2567 และผลกระทบของปรากฏการณ์เอลนีโญลดลง และบางพื้นที่มีอุณหภูมิลดลง ทำให้ปริมาณผักสดเข้าสู่ตลาดมากกว่าปีก่อนหน้า ส่งผลให้ราคามีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง โดยไตรมาส 1 ปี 2567 เงินเฟ้อน่าจะติดลบประมาณ 0.7% ส่วนเงินเฟ้อเดือนต่อ ๆ ไป อาจเห็นบวกบ้าง ลบบ้าง โดยกระทรวงพาณิชย์ ยังคงคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2567 อยู่ระหว่าง ลบ 0.3% ถึงเพิ่มขึ้น 1.7% ค่ากลาง 0.7%