Phones





NAT เปิดเทรด mai วันแรก 5.95 บาท สูงกว่า IPO กว่า 10%

2024-02-15 10:48:10 75



นิวส์ คอนเน็คท์ - NAT ไม่ทำนักลงทุนผิดหวัง เปิดเทรด mai วันแรก ราคา 5.95 บาท สูงกว่า IPO กว่า 10% ลุยรับงานเติมพอร์ต มั่นใจผลงานปีนี้โตเกิน 30%

เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 บริษัท แนท แอบโซลูท เทคโนโลยีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NAT ผู้เชี่ยวชาญด้าน Infratech ส่วนงานโครงสร้างระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และการให้บริการด้านเทคโนโลยีครบวงจรแก่องค์กรชั้นนำของประเทศ เข้าจดทะเบียนและซื้อขายเป็นวักแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยเปิดซื้อขายที่ 5.95 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 10.19% จากราคา IPO ที่ 5.40 บาท
 
นายสุธี อภิชนรัตนกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NAT เปิดเผยว่า พอใจกับการตอบรับของนักลงทุนในการเข้าซื้อขายเป็นวันแรก โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุน ไปขยายธุรกิจตามแผนที่ได้วางไว้

สำหรับการวางเป้าหมายการเติบโตนั้น ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการเติบโตในระดับ 40-50% ต่อปี ส่วนในปี 67 ยังเชื่อมั่นจะมีการเติบโตต่อเนื่อง คาดว่าไม่น้อยกว่าระดับ 30%

ทั้งนี้ การเข้าระดมทุนใตลาดหลักทรัพย์ mai ครั้งนี้ จะทำให้บริษัทมีโอกาสในการขยายงานมากขึ้น ทั้งในแง่ของมูลค่างาน   ความพร้อมของบุคลากร ตลอดจนรูปแบบการให้บริการ โดยบริษัทมีแผนเพิ่มบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ อาทิ วิศวกร พนักงานฝ่ายขาย และ บุคลากรทางด้านไอที เพื่อเพิ่มความพร้อมในการเข้ารับงานโครงการต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีขนาดใหญ่ขึ้น สามารถขยับมูลค่าการเข้ารับงานโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีขึ้นไปอยู่ที่ระดับหลายร้อยล้านบาทต่อโครงการ จากเดิมอยู่ในระดับสิบถึงร้อยล้านบาท อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสในการเข้ารับงานด้านการวางระบบ Cyber Security และ Software Development ตามความต้องการเฉพาะของลูกค้าองค์กรต่างๆ ได้มากขึ้นเช่นกัน
 
โดยบริษัทมีแผนเข้าประมูลและรับงานโครงการพัฒนาระบบเทคโนโลยีของทั้งภาครัฐและเอกชน มูลค่ารวมประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งในบางโครงการบริษัทได้มีการเข้าไปศึกษาระบบการดำเนินงาน ความต้องการของลูกค้า รวมถึงพิจารณาความเป็นไปได้ในการพัฒนาระบบร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ไว้แล้ว 
 
“ปัจจุบันสัดส่วนงานโครงการของบริษัทแบ่งเป็น งานภาครัฐจำนวน 85% งานเอกชนจำนวน 15% และ บริษัทมีอัตราการได้งานจากการเข้าประมูลในระดับสูง ด้วยจุดแข็งของบริษัทที่ให้บริการโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ด้วยความเชี่ยวชาญ และ การผลิตภัณฑ์ทางเทคโนโลยีจากบริษัทระดับโลก ซึ่งความสามารถของบริษัทและโอกาสที่จะเข้ามาในอนาคต จะส่งผลให้บริษัทมี Backlog เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สอดรับกับศักยภาพทางการเงินของบริษัทจากการระดมทุนและสามารถสร้างสถิติสูงสุดทั้งรายได้และกำไรในปีนี้ได้อย่างแน่นอน” นายสุธี กล่าว