Phones





GUNKUL โชว์ปี 66 กำไรพุ่งแตะ 1.57 พันลบ. เพิ่มขึ้น 36.08%

2024-02-29 09:14:12 362



นิวส์ คอนเน็คท์ - GUNKUL ประกาศผลการดำเนินงานปี 66 มีกำไรสุทธิ 1,576.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.08% ส่วนรายได้รวมเท่ากับ 7,737.12 ล้านบาท จากการเติบโตส่วนของพลังงานทดแทน และงานก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น “โศภชา ดำรงปิยวุฒิ์” เดินหน้าพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนที่ได้รับคัดเลือกและเซ็น PPA ด้วยงบลงทุน 5 ปี มูลค่า 4.5 หมื่นล้านบาท

เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานงวดปี 2566 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566 โดยมีรายได้รวม 7,77.12 ล้านบาท และกำไรจากการดำเนินงานปกติ 1,576.18 ล้านบาท จากผลการดำเนินงานที่เติบโต ทั้งในส่วนของพลังงานทดแทน และงานก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น  

ทั้งนี้ ในปี 2566 บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนในประเทศ และได้รับคัดเลือกตามประกาศ กกพ. ว่าด้วยการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565 – 2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565 จำนวน 17 โครงการ รวม 832.4 เมกะวัตต์ โดยบริษัทฯ ได้เซ็นสัญญาซื้อขายไฟแล้ว จำนวน 14 โครงการ รวม 621.4 เมกะวัตต์ ซึ่งต้องใช้เวลาในการพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง และทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทต้องใช้งบลงทุนด้านพลังงานทดแทนใน 5 ปี ด้วยมูลค่าเงินลงทุน 4.5 หมื่นล้าน ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท จึงเห็นชอบให้ดำรงเงินสดไว้ในกิจการเพื่อนำไปลงทุน จึงเห็นควรให้งดจ่ายเงินปันผลเพิ่มเติมประจำปี สำหรับผลการดำเนินงาน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง วันที่ 31 ธันวาคม 2566 เพื่อนำไปลงทุนในการพัฒนาโครงการด้านพลังงานทดแทนที่บริษัทมีอยู่ รวมถึงเพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องให้กับกิจการและผู้ถือหุ้นต่อไป  

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 บริษัทได้มีการจ่ายปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงาน สำหรับงวดสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566 ในอัตรา 0.06 บาท/หุ้น คิดเป็น ร้อยละ 52.23 ของกำไรสุทธิ และ/หรือ คิดเป็นร้อยละ 45.75 สำหรับงวดสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งยังคงเป็นไปตามนโยบายการจ่ายเงินปันผล ที่บริษัทได้กำหนดไว้ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของงบการเงินเฉพาะกิจการ ทั้งนี้อัตราการจ่ายเงินปันผลเทียบกับราคาหุ้น (Dividend Yield) หลังหักสำรองใด ๆ มีอัตราที่ใกล้เคียงกับปีก่อน

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมความพร้อมด้านนวัตกรรมพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นการคิดค้นรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ และปรับกลยุทธ์เพื่อรองรับภูมิทัศน์ทางธุรกิจ (Business Landscape) ที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป และเน้นความร่วมมือกับพันธมิตรในการที่จะพัฒนาธุรกิจพลังงานทดแทนในหลากหลายรูปแบบ เช่น การพัฒนาแพลตฟอร์มซื้อขายอุปกรณ์ไฟฟ้าและการติดตั้งพลังงานทดแทนให้แก่ประชาชนที่สนใจอยากเข้าถึงการใช้พลังงานสะอาดได้ง่ายขึ้น ผ่านแพลตฟอร์มโกดังไฟฟ้าดอทคอม (www.godungfaifaa.com) และแพลตฟอร์มศูนย์รวมผู้รับเหมาโซลาร์ Volt (www.voltmarketplace.com) โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวได้นำมาใช้งานในช่วงระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา และสร้างรายได้เพิ่มให้กับกลุ่มบริษัทอย่างต่อเนื่อง

อีกทั้งยังมีแพลตฟอร์มการซื้อขายพลังงานไฟฟ้า (Peer-to-Peer Energy Trading) เพื่อเป็นการรองรับการผลิตพลังงานหมุนเวียนและศึกษาความเป็นไปได้ในธุรกิจ New S-Curve เช่น ระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่และเทคโนโลยีโรงไฟฟ้าเสมือน (Virtual Power Plant)รวมถึงแสวงหาโอกาสในการลงทุนด้านพลังงานทดแทน ในรูปแบบต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ในปี 2566 บริษัทมีโครงการอยู่ในมือแล้ว รวม 1,563 เมกะวัตต์ และบริษัทคาดว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า บริษัทจะสามารถมีจำนวนเมกะวัตต์สะสม เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 2,000 เมกะวัตต์ และมีรายได้รวม 10,000 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันในปี 2566 แสดงจำนวน 7,737 ล้านบาท โดยคาดการณ์ว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจำนวน 2,263 ล้านบาท